รัฐโหมอัดฉีดงบดันศก.-หุ้นสิ้นปี ดีบีเอสฯวิเคราะห์ 12 บริษัทส้มหล่น

หุ้นไทยหลุด 1,600 จุด แป๊บเดียว แรงซื้อแบงก์ -พลังงานสวนกลับ หนุนดัชนีปิดบวก 5.30 จุด หุ้นยุโรป-เอเชียฟื้น ไทยได้ปัจจัยในประเทศช่วย เศรษฐกิจปลายปีส่อแววสดใส ตัวเลขส่งออกต.ค.โต 8.7% ‘สมคิด’สั่ง 18 รัฐวิสาหกิจ เร่งเบิกจ่ายไตรมาส 4 รัฐชงครม.อนุมัติงบกระตุันกำลังซื้อ บล.ดีบีเอสฯวิเคราะห์มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ส่งผลดีต่อหุ้น 12 บริษัทยก CPALL เด่นที่สุด ส่วนรายได้ ท่องเที่ยวเดือน ต.ค.ยังสลบต่อไป นักท่องเที่ยวจีนวูบ 20%

การซื้อขายหุ้นวันที่ 21 พ.ย. 2561 ภาคเช้าหุ้นไทยปรับลงไปต่ำกว่า 1,600 จุดเล็กน้อย แต่ไม่นาน และไม่ดิ่งลงแรงตามดาวโจนส์ เนื่องจากมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารคืนหลังจากขายมาหลายวัน และในภาคบ่ายราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกดีดกลับ มีแรงซื้อหุ้นพลังงานคืนกลับมา ทำให้ตลาดพลิกมาเป็นบวก เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นยุโรป ตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงไทย ไม่ดิ่งลงแรงตามดาวโจนส์ ส่วนหนึ่งได้ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมาช่วย ทำให้มีแรงซื้อหุ้นพลังงานเข้ามาในช่วงบ่าย โดยรวมปิดที่ระดับ 1,617 จุด บวก 5.30 จุดหรือ 0.33% มูลค่าการซื้อขายปานกลาง 46,966 ล้านบาท

มาร์เก็ตติกล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็นที่สนใจซื้อของนักลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงไปมาก และตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออกมาดีขึ้นมาก นักลงทุนลดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจไตรมาส 3 เติบโตเพียง 3.3% คาดว่าโดยรวมปีนี้สินเชื่อยังคงขยายตัวได้ หลังจากตัวเลขส่งออกเดือนต.ค. ขยายตัว 8.7% หายตกใจกับตัวส่งออกเดือนก.ย.ที่ติดลบถึง 5.2%

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.2561 ว่า มีมูลค่า 21,757.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.7% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 22,037.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11.23% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล มูลค่า 278.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับการส่งออกช่วง 10 เดือนปี 2561 มีมูลค่า 211,487 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.19% นำเข้ามีมูลค่า 208,928 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 14.78% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,558.9 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย คาดว่าการส่งออกในปี 2561 จะขยายตัวได้ 8% ตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 18 แห่ง ที่มีวงเงินลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนโดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 2561 ให้ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนให้ไม่น้อยกว่า 95% เพื่อให้สอดคล้องกับตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2561

“การเร่งให้รัฐวิสาหกิจใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ “มาร์เก็ตติงกล่าว

ขณะเดียวกันตลาดยังคงรับข่าวดีเรื่องรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ครม. เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจปีนี้เติบโตขึ้น 0.07%

ปัจจุบันรัฐบาล กำลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติ คาดว่าจะมีผลในทางปฎิบัติประมาณวันที่ 16 ธ.ค.2561-15 ม.ค.2562 โดยจะกำหนดสินค้าเฉพาะบางรายการเข้าร่วม เช่น การซื้อยางรถยนต์, การส่งเสริมการอ่าน โดยสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ตัวเลขส่งออกกลับมาโตเด่น 8.7% มากกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยที่ 4.5% และเป็นการฟื้นตัวจากรายงานครั้งก่อนที่ ติดลบ 5.2% เป็นจิตวิทยาบวกต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

ธนาคารไทยพาณิชย์วิเคราะห์ว่า การส่งออกสินค้าของไทยและหลายประเทศในเอเชียกลับมาขยายตัวในเดือนต.ค. หลังจากชะลอ-หดตัวในเดือนก่อนหน้า สะท้อนความคลี่คลายของปัจจัยลบชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของการส่งออกไทยปี 2561 เป็นขยายตัวที่ 7.5% จากเดิมที่ 8.5% โดยยังมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง รวมมูลค่าการส่งออกในเดือนก.ย.และต.ค.เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนมีการขยายตัวเพียง 1.5% เท่านั้น (หรือขยายตัว 3.2% หากหักทองคำ) และปรับลดประมาณการการเติบโตของการนำเข้าของไทยที่ 13% จากเดิมที่ 15% จากสินค้าเชื้อเพลิงมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่อง

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในเดือนต.ค. 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2.71 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเซียตะวันออกมากที่สุด 1.84 ล้านคน รองลงมายุโรป จำนวนลดลง 0.51 % เทียบช่วงเดียวกับปีก่อน ซึ่งเป็นผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัว ส่วนการใช้จ่ายมีมูลค่า 1.41 แสนล้านบาท โตเล็กน้อย 0.66 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับนักท่องเที่ยวจีน ในเดือนต.ค. จำนวน 6.46 แสนคน ลดลง 19.8 % รายได้ 34,560 ล้านบาท ลดลง 16.59 % ซึ่งจีน มีจำนวนมากที่สุด และสร้างรายได้สูงสุด

ส่วนช่วง 10 เดือนแรก 2561 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 31.25 ล้านคน โต 7.84 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน สร้างรายได้ 1.63 ล้านล้านบาท โต 9.98 %