HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้งสามแห่งปรับตัวลงเล็กน้อย ดัชนีดาวโจนส์ติดลบ 11 จุด จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลง 4 วันทำการ ส่วนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 20 มี.ค.2568 ปิดที่ 41,953.32 จุด ลดลง 11.31 จุด หรือ -0.03% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังจากที่คงอัตราดอกเบี้ยในวันพุธที่ผ่านมา
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,662.89 จุด ลดลง 12.40 จุด, -0.22%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,691.63 จุด ลดลง 59.16 จุด, -0.33%
เมื่อวันพุธเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย และคงคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ตามคาด แต่ความไม่แน่ใจต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยกลับเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจถดถอย จากแผนภาษีศุลกากรในวงกว้างของประธานาธิบดีนัลด์ ทรัมป์
ในแถลงการณ์ เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจและปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในปีนี้ ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ระบุว่าความกังวลอยู่ที่ภาษีศุลกากร โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจได้
นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะไม่ดำเนินการใดๆ ก่อนที่จะได้เห็นผลกระทบจากแผนภาษีของประธานาธิบดี ทรัมป์ ซึ่งการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการของแคนาดาและเม็กซิโกจะสิ้นสุดลงในวันที่ 2 เม.ย.นี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่รายงานเมื่อวานนี้ โดยกระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้วว่าเพิ่มขึ้น 2,000 ราย มาที่ 223,000 ราย
Conference Board รายงาน ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (Leading Economic Index – LEI) เดือนกุมภาพันธ์ลดลง 0.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.2% จากที่ลดลง 0.2% ในเดือนม.ค.
กระทรวงพาณิชย์รายงาน การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐไตรมาส 4 ปี 2024ว่าลดลง 2.0% มาที่ 303.9 พันล้านดอลลาร์ จาก 310.3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งปี 2024 สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น 25.2% เป็น 1.13 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือคิดเป็น 3.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นจาก 3.3% ในปี 2023
หุ้น Accenture ร่วงลงกว่า 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ว่าธุรกิจบริการระดับรัฐบาลกลางของบริษัทสูญเสียสัญญาต่างๆ กับรัฐบาลกลาง ท่ามกลางความพยายามใช้จ่ายที่เข้มงวดมากขึ้นภายใต้รัฐบาลทรัมป์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบหลังปรับขึ้นติดต่อกัน 4 วัน ต่อเนื่องเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรและประเมินการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักๆ ทั่วทั้งทวีป
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 552.98 จุด ลดลง 2.39 จุด, -0.43%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,701.99 จุด ลดลง 4.67 จุด, -0.05%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,094.20 จุด ลดลง 77.27 จุด, -0.95%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,999.15 จุด ลดลง 288.91 จุด, -1.24%
นักลงทุนย่อยการตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษ(BOE)และธนาคาร Riksbank ของสวีเดน โดยธนาคารทั้งสองแห่งคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.5% และ 2.25% ตามลำดับ ขณะที่ธนาคารกลางสวิสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022
ตลาดหุ้นสหราชอาณาจักรและสวีเดนปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นสวิตเซอร์แลนด์ปรับตัวขึ้น
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 25% จะทำให้การเติบโตของยูโรโซนลดลง 0.3 จุด ในปีแรก ขณะที่มาตรการตอบโต้อาจทำให้การเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 0.5 จุด
โจเชน สแตนเซิล หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดของ CMC Markets กล่าวว่า คำกล่าวของลาการ์ดและสัญญาณขาลงที่จากเฟดและ BOE เตือนว่าความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจตกต่ำพร้อมภาวะเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้น หากทรัมป์ยังคงทำในสิ่งที่เขาทำอยู่ นอกจากนี้ยังมีการเทขายทำกำไร
อย่างไรก็ตามสหภาพยุโรปประกาศชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าวิสกี้สหรัฐ 25%ออกไปจากที่กำหนดไว้เป็นวันที่ 1 เมษายนเป็นวันที่13 เมษายน
กลุ่มธนาคารในยุโรปร่วงลง 2.2%
ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและการป้องกันประเทศของทวีปยุโรปร่วงลง 2% จากที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานนี้ด้วยความหวังเกี่ยวกับการปฏิรูปการคลังของเยอรมนี ซึ่งเตรียมนำเสนอต่อสภาสูงของรัฐสภาในวันศุกร์
ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ยังคงมีอยู่หลังจากที่ยูเครนโจมตีสนามบินสำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ของรัสเซีย ทำให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ห่างจากแนวหน้าของสงครามประมาณ 700 กิโลเมตร
หุ้น Commerzbank ลดลง fell 3.3% หลังเบตตินา ออร์ลอปป์ ซีอีโอ กล่าวว่ายังไม่ได้เจรจากับ UniCredit นับตั้งแต่ที่ ECB อนุมัติให้ถือหุ้นเกือบ 30% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
หุ้น Richemont และ Swatch Group ผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิส ลดลง 2.9% และ 4.2% ตามลำดับ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการส่งออกนาฬิกาสวิสลดลงในเดือนกุมภาพันธ์
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 68.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 72.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในฉนวนกาซาและเยเมน รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่านใหม่ของสหรัฐฯ