ราคาน้ำมันดิบร่วง 6% หลังหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งแรง

ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 6% WTI ปิด 53.43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล BRENT 62.53 เหรียญสหรัฐ ได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ลดลงกว่า 551 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ตลาดเริ่มไม่มั่นใจการควบคุมสมดุลน้ำมันของโอเปก WTI

บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหนัก หลังได้รับแรงกดดันจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ปรับตัวลดลง 551.8 จุดลงไปแตะระดับ 24,465.6 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบสามสัปดาห์ โดยเป็นผลมาจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับเพิ่มดอกเบี้ยเชิงนโยบายอีกครั้ง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดตลาดวันที่ 21 พ.ย.2561 ลดลง 3.77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.6% เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อยู่ที่ 53.43 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลง 4.26 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือ -6.4% ปิดที่ 62.53 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดกังวลและไม่มั่นใจในการควบคุมสมดุลน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปก หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปีหน้าคาดการณ์ว่าจะชะลอตัวลงจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศจีน โดยกลุ่มโอเปกจะประชุมหารือประเด็นการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 1.0-1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมกลุ่มโอเปก ณ เมืองเวียนนาประเทศออสเตรีย วันที่ 6ธ.ค. นี้

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2.9 ล้านบาร์เรล และปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 อย่างไรก็ตาม หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐฯ (API) ได้เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลลงไปแตะระดับ 439.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า โดยรายงานอย่างเป็นทางการของสถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) จะประกาศในวันนี้