“คิงส์ฟอร์ด” แนะทยอยซื้อค้าปลีก-โรงกลั่น-รับเหมา หุ้นเด่น GPSC-CPALL

HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนีวันนี้ที่ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,400 จุด รอประเมิน GDP ไทยปี 67 จากสภาพัฒน์ และรายงานกำไร บจ. ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดร่วงหลังดัชนี PPI สูงกว่าคาด หวังเฟดลดดอกเบี้ยมีน้อยลง ด้านบอนด์ยีลด์พุ่งแตะ 4.287% บิทคอยน์ปรับขึ้นต่อแตะ 52,090 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้ GPSC-CPALL

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับ SET ที่ 1,375 – 1,380 จุด แนวต้าน 1,390 – 1,400 จุด รอประเมิน GDP ไทยปี 67 จากสภาพัฒน์ และรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อค้าปลีก CPALL,CPAXT,BJC คาดกำไรฟื้นตัวตามอุปสงค์ในประเทศ โรงกลั่น TOP, BCP ปรับดีขึ้นคามค่าการกลั่น , รับเหมาก่อสร้าง CK,STEC ได้แรงจากงบประมาณปี 67 – 68

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.37%, S&P500 -0.48%, Nasdaq -0.82% จากแรงขายกลุ่มบริการสื่อสาร -1.56%, อสังหา -0.99% หลัง US PPI ม.ค. +3.1% สูงกว่าคาด +2.9% YoY ส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาสเพียง 31% จะลดดอกเบี้ยใน พ.ค. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.62% สูงสุดในรอบ 2 ปี ได้แรงหนุนจากคาด ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน เม.ย.

ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ อยู่ที่ 79.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน Brent ส่งมอบเดือยเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.61 ดอลลาร์ อยู่ที่ 83.47 ดอลลาร์/บาร์เรล โดย WTI +6.3% WoW, Brent +1% WoW ได้แรงหนุนจากสถานการณ์ไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่โอเปกคาดอุปสงค์น้ำมันตลาดโลกในช่วง 20 ปีข้างหน้ายังปรับเพิ่มขึ้น

ด้านทองคำ Comex Gold เม.ย.ปรับขึ้น 9.20 ดอลลาร์ อยู่ที่ 2,024.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มีแรงซื้อกลับเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ใช้ป้องกันเงินเฟ้อ หลังรายงาน US CPI, PPI ม.ค. สูงกว่าคาด

ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 35.915 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.287 %

ดัชนี BDI วานนี้ +29 จุด อยู่ที่ 1,610

BitCoin เช้านี้ +0.79% อยู่ที่ 52,090 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ GPSC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 56.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 478 ล้านบาท ลดลง -73%QoQ แต่พลิกกำไรจาก 4Q65 โดยกำไรที่ลดลงมาจากโรงไฟฟ้า SPP ปริมาณขายไฟฟ้าและไอน้ำลดลง เนื่องจากลูกค้าอุตสาหกรรมบางส่วนปิดซ่อมบำรุง ประกอบกับค่า Ft ที่ปรับลดลงจากงวดก่อนหน้า รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไซยบุรีที่ลดลงตามฤดูกาล

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการ 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ เป็นผลจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.67 ประกอบกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลงทั้งถ่านหินและก๊าซ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานที่ลดต่ำลงตามฤดูกาล ส่วนในปี 67 จะยังคงได้ผลบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลงส่งผลบวกต่อ margin โดยปริมาณก๊าซที่ผลิตจากแหล่งเอราวัณจะทยอยเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 67 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท +37%YoY

หุ้น CPALL (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายปี67 73.50 บาท) ในส่วนของงบงวด 4Q66 เบื้องต้น เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 4,695 ลบ. (+49.62%YoY, +6.11%QoQ) เติบโตได้ QoQ ตามตามปัจจัยฤดูกาล ส่วน YoY ยังโตได้จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงรวมถึงรายได้ที่สูงขึ้นจากการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว+การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนประเด็นขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงถัดไป นอกจากค่าใช้จ่ายที่ลดลงแล้ว(การปรับปรุงระบบIT/Rebrand Lotus/ดอกเบี้ยจ่าย) คาดจะมาจากกำลังซื้อที่ฟื้นตัวหนุนด้วยม.ภาครัฐฯ(เช่น easy e-receipt ใน1Q67), การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการขยาย 7-11 ไปต่างประเทศ(กัมพูชา-ลาว)