ดาวโจนส์ปิดร่วง 478 จุด ทรัมป์ขู่เก็บภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียมแคนาดาเป็น 50%

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปิดร่วงลงแรง ดาวโจนส์ทรุด 478 จุด ทรัมป์ขู่เก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมแคนาดาเป็น 50% และจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมาก ในวันที่ 2 เม.ย. ช่วงบ่ายตลาดผ่อนคลายลงหลังแคนาดาจะระงับการเก็บภาษีกระแสไฟฟ้าจากสหรัฐ 25% ชั่วคราว  ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงตามสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 11 มี.ค. 2568 ปิดที่ 41,433.48 จุด ลดลง 478.23 จุด หรือ -1.14% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนจากการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดาจาก 25% เป็น 50% ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,572.07 จุด ลดลง 42.49 จุด, -0.76%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,436.10 จุด ลดลง 32.23 จุด, -0.18%

ดัชนี S&P 500 ลดลง 10% จากระดับปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,144.15 จุด เมื่อวันที่ 19  ก.พ.ที่ผ่านมาเข้าสู่การปรับฐานของตลาด

ตลาดเริ่มปรับลงในช่วงเช้าหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาเพิ่ม 2 เท่าเป็น 50% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในช่วงเช้าของวันที่ 12 มี.ค. เพื่อตอบโต้ต่อการเรียกเก็บภาษีกระแสไฟฟ้าที่ส่งให้แก่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% ของรัฐออนแทริโอของแคนาดา

นอกจากนี้ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอื่น ๆ ของแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในวันที่ 2 เม.ย. หากแคนาดาไม่ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์นมและสินค้าอื่น ๆ ของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายตลาดฟื้นตัว หลังจากดัก ฟอร์ด ผู้ว่าการรัฐออนแทริโอของแคนาดากล่าวว่า จะระงับการเก็บภาษีกระแสไฟฟ้า 25% ชั่วคราว หลังจากได้พูดคุยกับโฮเวิร์ด ลุตนิค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ

ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ กล่าวกับ CNBC เมื่อบ่ายวันอังคารว่า ทรัมป์จะไม่ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของแคนาดาเป็น 50% อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้า 25% ที่วางแผนไว้ในตอนแรกจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่จากทั้งสหรัฐและแคนาดาระบุว่าพวกเขาจะพบกันในสัปดาห์นี้เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดและเจรจานโยบายการค้าใหม่
ทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของ S&P ต่างปรับตัวลง นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมลดลง1.54% กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 1.18%

การประกาศเรื่องภาษีของทรัมป์เป็นครั้งล่าสุดในชุดนโยบายการค้าที่สะเปะสะปะ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความผันผวนของตลาด ในวันอังคารมีขึ้นหลังสัญญาณเตือนเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น อันเนื่องจากการขึ้นๆ ลงๆ ของทรัมป์ที่สร้างความสับสนและมุมมองทางลบให้กับผู้บริโภคและธุรกิจในสหรัฐฯ โดยผู้บริหารบริษัทเริ่มตระหนักมากขึ้นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อรายได้

Kohl’s บริษัทค้าปลีกรายใหญ่คาดการณ์ว่ายอดขายประจำปีจะลดลงมากกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้หุ้นร่วงลง 24.1% Dick’s Sporting Goodsบริษัทค้าปลีกอีกราย ร่วงลง 5.7% หลังจากที่คาดการณ์ผลประกอบการประจำปีที่ย่ำแย่

Delta Air Lines ร่วงลง 7.3% หลังจากที่ปรับลดประมาณการกำไรไตรมาสแรกลงครึ่งหนึ่ง

หุ้น American Airlines ร่วงลง 8.3% หลังจากที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาสแรกจะขาดทุนมากกว่าที่คาดไว้

ตลาดโลกพลิกผันตั้งแต่ทรัมป์จุดชนวนให้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากคู่ค้ารายใหญ่ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจกำลังชะลอตัวลง นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในวันพุธที่แสดงให้เห็นว่าการควบคุมเงินเฟ้อมีความคืบหน้าในหรือไม่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ได้แก่ ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมกราคมจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 232,000 ตำแหน่ง มาที่ 7.740 ล้านตำแหน่ง สูงกว่า 7.630 ล้านตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด จาก 7.508 ล้านตำแหน่งในเดือนธันวาคม การจ้างงานเพิ่มขึ้น 19,000 ตำแหน่ง มาที่ 5.393 ล้านตำแหน่ง ส่วนการปลดออกจากงานลดลง 34,000 ตำแหน่ง มาที่ 1.635 ล้านตำแหน่ง

ตลาดยุโรปปิดลบที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือนจากความกังวลว่านโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโต หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาสองเท่าเป็น 50%

ดัชนี STOXX 600 ร่วงลง 1.7% และลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ซึ่งเป็นการปรับตัวลง
ติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 536.89 จุด ลดลง 9.31 จุด, -1.70%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,495.99 จุด ลดลง 104.23 จุด, -1.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,941.91 จุด ลดลง 105.69 จุด, -1.31%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,328.77 จุด ลดลง 292.18 จุด, -1.29%

ทรัมป์ยังขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ส่งมายังสหรัฐฯ เพิ่มอีกในเดือนหน้า หากแคนาดาไม่ยกเลิกภาษีนำเข้าอื่นๆ
กลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนลดลง 1.9% นักลงทุนกังวลว่าภาษีศุลกากร 25% ที่เรียกเก็บจากสหภาพยุโรปอาจเกิดขึ้นจริง แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการบังคับใช้ก็ตาม

ดัชนีความผันผวนในภูมิภาคเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ 25.086 ก่อนที่จะลดลงจากระดับสูงสุดของวัน
เอียน บารน์ส หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของ Netwealth กล่าวว่า มาตรการใหม่ที่ประกาศในวันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยุโรป แต่ระดับความไม่แน่นอนของนโยบายทำให้ผู้ลงทุนรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าปกติ และเริ่มมีผลกับตลาด

การประกาศเก็บภาษีของทรัมป์เป็นแหล่งที่มาของความผันผวนอย่างต่อเนื่องในตลาด โดยผู้ลงทุนตั้งคำถามว่านโยบายจะนำมาใช้จริงในระดับใด

หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการเป็นหุ้นที่ร่วงลงมากที่สุด โดย IAG ลดลง 6.1% Lufthansa ลดลง 5.3% และ Entain ลดลง 2.6% หลังจากที่ Delta Airlines สายการบินหลักของสหรัฐฯ ปรับลดประมาณการกำไรรายไตรมาสเนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับเยอรมนี โดยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจกำลังเผชิญอุปสรรค

หลังจากที่พรรคกรีนส่งแผนเช่นกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “หากไม่ผ่าน ก็มีแนวโน้มว่าจะเกิดความกังวลต่อวิกฤตการณ์ทางการเมืองในเยอรมนีที่กว้างขึ้น และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น” บาร์นส์กล่าว

ดัชนีหุ้นกลุ่มอวกาศและกลาโหมเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากลดลงติดต่อกัน 3 วัน โดยหุ้น Leonardo ของอิตาลีเพิ่มขึ้น 1.7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้และคำสั่งซื้อสำหรับปีนี้

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.33% ปิดที่ 66.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 69.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
 
 
———————————————————————————————————————————————————–