HoonSmart.com>>”พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”(PF) ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ไว้ที่ 10,190 ล้านบาท โต 27% ยอด Pre-Sale ที่ 9,200 ล้านบาท ยอดโอน 9,500 ล้านบาท โต 36% แผนเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่า 4,900 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ 1 ทาวเฮ้าส์ มีแผนขายที่ดิน 3 แปลง มูลค่ารวม 5,350 ล้านบาท ขาย Royal Orchid Seraton มูลค่า 6,000 ล้านบาท ระดมเงิน 11,350 ล้านบาท หวังนำมาลดหนี้
นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF) เปิดเผยว่า ปี 2568 วางเป้ารายได้รวมไว้ที่ 10,190 ล้านบาท เติบโต 27% โดยบ้านเดี่ยวอาจจะเติบโต 46% คอนโดมิเนียมเติบโต 100% ส่วนของโรงแรมจะลดลง 25% จากรับรู้ 4 โรงแรม จากเดิม 5 โรงแรม ส่วนธุรกิจให้เช่าและบริการจะลดลง 2% หลังจากขายโรงแรมไปแล้วรายได้ให้เช่าพื้นที่ก็จะหายไปด้วย
นอกจากนี้ ตั้งเป้ายอด Pre-Sale ไว้ที่ 9,200 ล้านบาท แบ่งเป็นจากบ้านเดี่ยว 6,500 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1,200 ล้านบาท และโครงการ JV 1,500 ล้านบาท โดยในปี 2567 เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ทำให้มียอด Pre-Sale แค่ 75% ของเป้าหมาย ส่วนยอดโอนปี 2567 ทำได้ 80% ของเป้าหมาย แต่ปี 2568 ได้ตั้งเป้ายอดโอนไว้ที่ 9,500 ล้านบาท โตประมาณ 36% จากปี 2567 มาจากบ้านเดี่ยว 6,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1,000 ล้านบาท และ JV 2,500 ล้านบาท
แผนหลักในปี 2568 เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน คาดหวังเศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น รัฐบาลน่าจะออกนโยบายมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โต ส่วนอัตราดอกเบี้ยเริ่มเห็นการลดลงแล้ว น่าจะช่วยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป แนวโน้มดอกเบี้ยน่าจะขาลงมากกว่า เป็นผลดีต่ออสังหาฯ และคงมาดูแลในเรื่องของสภาพคล่องและสร้างฐานะการเงินให้แข็งแกร่ง มีแผนขายเงินลงทุนมาช่วยเสริม
ทั้งนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทยังคงพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์การสร้าความสุขอย่างยั่งยืน และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้จากโครงการร่วมทุน (Joint Venture) ส่วนของโรงแรมเติบโตต่อเนื่อง เพิ่มอัตราเข้าพักและราคาเฉลี่ยต่อห้อง
ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน PF กล่าวว่า การเปิดโครงการใหม่ในปี 2568 จะมี 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท โดยจะเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ คือ โครงการเพอร์เฟคเพลส ราชพฤกษ์ (ไพร่ฟ้า) มีจำนวน 141 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท, โครงการเพอร์เฟคเพลส 4 รามอินรา จำนวน 107 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,330 ล้านบาท, โครงการเพอร์เฟคเพลส กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า จำนวน 66 ยูนิต มูลค่าโครงการ 670 ล้านบาท และเป็นทาวเฮ้าส์ 1 โครงการ คือ โครงการโมดิวิลล่า 2 บางใหญ่ จำนวน 389 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท
กลยุทธ์ 1.จะเน้นสินค้าพร้อมอยู่ในกลุ่ม Real Demand ในส่วนของคอนโดฯ น่าจะอิงกับโครงการของรัฐฯที่ออกมา ขณะที่เฟอร์เฟคเพลส , เพอร์เฟคพาร์ค เป็นสินค้าระดับกลาง-บน สำหรับกลุ่มที่มีรายได้ เป็น Real Demand 2. จะขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Luxury ไปยังกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ ที่เติบโตเร็ว ซึ่งแต่ละแห่งมีโครงการรองรับอยู่แล้ว ก็จะพยายามเจาะใหม่ กลุ่มลูกค้านี้เข้าไป 3. จะขยายตลาด การรับสร้างบ้าน โดยใช้ประสบการณ์ก่อสร้างที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน รวดเร็ว จากระบบแผ่นสำเร็จรูป Pre-Fab 4. เพิ่มทางเลือกให้ตรง Lifestyle : บ้านพร้อมอยู่ 3-6 เดือน สวย-สั่ง-ได้ เลือกสีบ้าน เลือกสไตล์ บ้านที่เป็นตัวคุณ เป็นกลยุทธ์ที่จะเจาะฐานลูกค้า 5. พัฒนาบ้าน รุ่นใหม่ ที่ดีไซน์ตามความต้องการของลูกค้า 6. มีแผนออก Event Marketing ให้มากขึ้น
สำหรับธุรกิจโรงแรม ปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอาจเห็น 40 ล้านคน ในปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 1,900 ล้านบาท ลดลงจากปี 2567 ที่มีรายได้ 2,350 ล้านบาท โดยจะรับรู้ 4 โรงแรม เนื่องจากได้มีการขาย”ไฮแอท เอเยนซี่ สุขุมวิท”ออกไป 1 โรงแรม โดยในปีนี้จะออกโครงการวิลล่าที่ระยองเข้ามาเสริม ปี 2568 น่าจะมีรับรู้รายได้จากโครงการนี้ประมาณ 800 ล้านบาท
นายธีรธัชช์ กล่าวว่า แผนการขายที่ดิน สิทธิการเช่า และการออก REIT ส่วนของ”พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค”จะขายที่ดิน 3 แปลง มูลค่ารวม 5,350 ล้านบาท ขณะที่ Grande Asset มีแผนขาย Royal Orchid Seraton มูลค่า 6,000 ล้านบาท รวมยอดเงิน 11,350 ล้านบาท ที่จะสามารถนำมาลดหนี้ของบริษัท ภาระดอกเบี้ยก็จะลดลงตาม