HoonSmart.com>>”ท่าอากาศยานไทย” (AOT) โชว์กำไรไตรมาส1/67 สิ้นธ.ค.66 โกยกำไร 4,563 ล้านบาท พุ่งขึ้น 1,231% จากปีก่อน เทียบไตรมาส 4 ปีก่อน โต 33% มาจากรายได้รวม 1.57 หมื่นล้านบาท ทะยานขึ้น 78% จากจำนวน เที่ยวบินเพิ่ม 19%ผู้โดยสารโต 25% AOT เปิดประมูลหาผู้ให้บริการภาคพื้นรายที่ 3 เม.ย. นี้ ด้านบล.หยวนต้าคาดกำไรปกติ 5,000 ล้านบาท คงเป้ากำไรทั้งปี 2.2 หมื่นล้านบาท หั่นเป้าราคาเหลือ 73 บาท บล.กรุงศรีคาดทั้งปีสูงกว่าปี 62 ที่ 25,026 ล้านบาท
บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศไทย รายงานผลงานงวด ไตรมาส 1/2567 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) มีกำไรสุทธิ 4,563 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.32 บาท พุ่งขึ้น 1,231.22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 342.77 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท (YoY) และเพิ่มขึ้น 32.96% เทียบกับไตรมาสที่ 4/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 3,431.94 ล้านบาท (QoQ)
นายเจนวิทย์ มุสิกรัตน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย กล่าวว่า สาเหตุมาจากปริมาณการจราจรทางอากาศมีจำนวน 178,215 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.51% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 96,392 เที่ยวบิน และภายในประเทศ 81,823 เที่ยวบิน ส่วนจำนวนผู้โดยรวมรวมทั้งสิ้น 28.88 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.49% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 16.90 ล้านคน และภายในประเทศ 11.98 ล้านคน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและภาคการท่องเที่ยว ทำให้มีรายได้รวม 15,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,917 ล้านบาท เติบโต 77.97% มีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 6,522.8 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนทำได้เพียง 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,276.81 ล้านบาทหรือ 423.50%
” AOT มีรายได้จากการขายหรือการให้บริการเพิ่มขึ้น 6,883.62 ล้านบาท หรือ 78.01% ทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบินจำนวน 2,725.56 ล้านบาทหรือ 62.64% และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจำนวน 4,158 ล้านบาทหรือ 92.96% ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 87,403.87 ล้านบาท”
นอกจากนี้บริษัทฯสามารถดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) น้อยกว่า 1 เท่า แต่มีอัตราส่วนสภาพคล่องน้อยกว่า 1 เท่า โดยมี ROE อยู่ที่ 4.05 % เพิ่มจากจำนวน 0.34% และ ROA อยู่ที่ 2.34 % เพิ่มจากระดับ 0.19%
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า การเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้นดิน สนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 คาดจะเปิดประมูลได้ปลายเดือนเม.ย. 2567 ให้เวลายื่นเอกสาร 45 วัน และพิจารณาคัดเลือกประมาณ 3 เดือนจะได้ตัวผู้ให้บริการรายที่ 3
ด้านราคาหุ้น AOT วันที่ 12 ก.พ.67 ปิดที่ 65.25 บาท บวก 0.75 บาทหรือ+1.16% ต่ำกว่าเป้าหมายของ 16 โบรกเกอร์ที่ให้ราคาต่ำสุดที่ 67 บาท ราคาเฉลี่ย 75.79 บาท และเป้าหมายสูงสุดที่ 84 บาทโดยบล.อินโนเวสท์ เอกซ์
บล.หยวนต้าให้เป้าหมายราคา 12 เดือนข้างหน้าที่ 73 บาท คาดแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/2567 ที่ 5,000 ล้านบาท บวก 38% จาก QoQ และพุ่งขึ้น 1,051% โตเด่น YoY จากรายได้สัมปทานและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว แนวโน้มไตรมาสที่ 2 โตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คงประมาณการกำไรปกติที่ 2.2 หมื่นล้านบาท และคงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 73 บาท โดยราคาในช่วง 3 เดือน ติดลบ 10% ยัง Laggard กลุ่มท่องเที่ยวที่ปรับตัวขึ้น 1% และตลาดหุ้นลดลงเพียง 0.2% หลังจากนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวดี ดังนั้นราคาหุ้นในปัจจุบัน มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ทั้งนี้ความเสี่ยงสำคัญได้แก่ นักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าคาด เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก
บล.กรุงศรี พัฒนสินให้เป้าหมาย 75 บาท การประเมินมูลค่าน่าจะกลับไปสู่ระดับก่อนโควิด คาดว่ากำไรปี 2567จะสูงกว่าปี 2562 ( 25,026 ล้านบาท) แต่ราคาหุ้น AOT ต่ำกว่าระดับก่อนโควิด 15% และซื้อขายที่ส่วนลด 13% ของ PE ก่อนโควิด ดังนั้นจึงคาดว่าการปรับอันดับเครดิตจะได้รับแรงหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะจากจีน ความเสี่ยงด้านลบ ได้แก่ ปริมาณผู้โดยสารที่น้อยกว่าคาดและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าคาด