PTTGC ปี’66 พลิกมีกำไร 999 ลบ.โมเดลธุรกิจสร้างกำไรพิเศษ

HoonSmart.com>>”พีทีที โกลบอล เคมิคอล”(PTTGC) แจ้งผลงานปี 66 พลิกมีกำไรสุทธิ 999.13 ล้านบาท จากปีก่อน  ขาดทุน 8,752 ล้านบาท ผลจากโมเดลธุรกิจมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน-ตราสารอนุพันธ์ -กำไรจากขายหุ้น GCL-กำไรจากซื้อคืนหุ้นกู้ต่างประเทศ-ขาดทุนจากเงินลงทุนลดลง  บริษัทยังขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ  3,587 ล้านบาท สภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น และอุปทานของภาคปิโตรเคมีที่เข้ามาในระหว่างปี  บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.75 บาท/หุ้น ขึ้น XD  23 ก.พ. 67

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) แจ้งผลดำเนินงานปี 2566 มีกำไรสุทธิ 999.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 8,752.21 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่มีขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 1.94 บาท

ภาพรวมผลประกอบการในปี 2566 บริษัทฯ มีขาดทุนจากการดำเนินงานปกติจำนวน 3,587 ล้านบาท จากอุปสงค์ยังคงชะลอตัวจากสภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น และอุปทานของภาคปิโตรเคมีที่เข้ามาในระหว่างปี โดยบริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ ได้แก่ ผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันและรายการขาดทุนจากการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Loss Net NRV) รวม 2,756 ล้านบาท กำไรทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวม 790 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขายหุ้น GCL คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,640 ล้านบาท โดยมีกำไรพิเศษจำนวน 4,017 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯยังดำเนินการลดภาระหนี้สินทางการเงินด้วยการซื้อหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯ โดยมีกำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้จำนวน 1,890 ล้านบาท สนับสนุนผลประกอบการนอกเหนือจากปกติ นอกจากนี้บริษัทฯ มีผลขาดทุนจากเงินลงทุนที่รับรู้ในปีนี้จำนวน 725 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าส่งผลให้ในปี 2566 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 999 ล้านบาท เท่ากับ 0.22 บาท/หุ้น

บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 616,635 ล้านบาท ลดลง  9% จากราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มปิโตรเลียมและปิโตรเคมีปรับลดลงในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์สะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวจากสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก อย่างไรก็ตามในด้านปริมาณการขายธุรกิจโรงกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในไตรมาส 4/2565 ในขณะที่ปี 2566 ไม่มีปิดซ่อมบำรุง ทำให้ปริมาณการขายสูงขึ้น ขณะที่ปี 2565 มีสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศรัสเซียและประเทศยูเครนซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปี 2565 ปรับสูงขึ้นกว่าปกติโดยในปี 2566

บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 40,007 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อนหน้า ตามทิศทางส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีส่วนใหญ่ที่ปรับลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีขั้นกลางและกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ และเคมีภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้ามาเป็นจำนวนมากในปี 2566 รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัว

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) : 27 ก.พ. 2567  กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 ก.พ.นี้ กำหนดจ่ายเงินในวันที่ 24 เม.ย. 2567 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลประมาณ 2.13% เทียบกับราคาหุ้นปิดที่ 35.25 บาท ณ วันที่ 12 ก.พ.2567 ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลจะต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น วันที่ 9 เม.ย. 2567ก่อน