“มอร์แกนสแตนลีย์” หั่นเป้า KBANK-SCB คาดธปท.ลดดอกเบี้ยส.ค.นี้

HoonSmart.com>>“มอร์แกนสแตนลีย์”(MS) หั่นราคาเป้าหมาย 3 แบงก์ใหญ่ KBANK  เจอหนักสุด  9 บาทเหลือ 164 บาท BBL ลงแค่ 1 บาท ตีมูลค่า183 บาท ส่วน SCB แนะถือ ลดเป้า 3 บาทเหลือ 120 บาท คาดแบงก์ชาติเริ่มลดดอกเบี้ยเดือนส.ค.นี้ รวม 0.5% หนักสุดอาจถึง 1% เห็นในปี’68    ด้านตลาดหุ้นไทยร่วงแรง 11 จุด  เงินบาทอ่อน จ่อ 36 

มอร์แกนสแตนลีย์ (MS) สถาบันการเงินชั้นนำของสหรัฐ ออกบทวิเคราะห์วันที่ 8 ก.พ.2567 มองว่าประเทศไทยจะเห็นเงินเฟ้อลดลงกดดันต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ  ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.50% คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนส.ค.นี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเริ่มปรับลดในดือนมิ.ย.นี้  ส่งผลต่อกลุ่มแบงก์ในระยะสั้น แต่อาจจะช่วยให้สินเชื่อและค่าธรรมเนียมเติบโตในระยะยาว รวมถึงผ่อนคลายแรงกดดันในคุณภาพหนี้

“การประชุมกนง.ครั้งล่าสุด แม้ว่าจะมีมติคงดอกเบี้ย แต่ด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 2 มองเห็นโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้น  หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ระดับต่ำควบคู่การเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่วัฎจักรดอกเบี้ยโลกอยู่ในช่วงขาลง โดยธปท.จะปรับลดในเดือนส.ค. รวม 0.50% ในปีนี้ กรณีแย่ที่สุดจะเห็นดอกเบี้ยลงประมาณ 1% แตะ 1.5% ภายในปี 2568 จึงปรับลดคาดการณ์กำไรกลุ่มแบงก์   เพราะทุกๆดอกเบี้ยที่ลดลง 0.25% จะส่งผลต่อ NIM ลดลง 0.15-0.20% และ ROE ลดลง 0.8-1.2% แต่เชื่อว่าบางแบงก์รับรู้ปัจจัยนี้แล้ว”

สำหรับกลุ่มแบงก์ที่ชอบ เลือกที่มี P/E ต่ำ จึงคงคำแนะนำ ซื้อ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แม้ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 164 บาท จากประมาณการเดิมอยู่ที่ 173 บาท ส่วนธนาคารกรุงเทพ(BBL) ลดเป้าหมายลง 1 บาท เหลือ 183 บาท

หากเห็นการลดดอกเบี้ยถึง 1% ในกรณีแย่ที่สุด ลดคำแนะนำ SCB เป็นถือ และลดราคาเป้าหมาย เหลือ 120 บาท จากเดิมให้ไว้ 123 บาท และคงคำแนะนำ”ขาย” ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) แม้ผลการดำเนินงานดีขึ้นและเพิ่มเป้าหมายเป็น 1.63 บาท จากเดิมที่ 1.62 บาท ก็ตาม

วันที่ 8  ก.พ. 2567 ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเกือบทั้งกลุ่ม ตามทิศทางของตลาด โดย KBANK ทรุดลงหนักถึง 3 บาท หรือ ร่วงลง 2.43% ปิดที่ 120.50 บาท ด้วยมูลค่ามากถึง 2,481 ล้านบาท TTB ลดลง 0.02 บาทหรือ -1.09% ปิดที่ 1.81 บาท ขณะที่ BBL ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ปิดที่ 142 บาท

รวมถึงแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้ดัชนีปิดที่ระดับ 1,388.60 จุด ลดลง 11.42 จุด หรือ -0.82% มูลค่าการซื้อขาย 43,082.48 ล้านบาท สวนทางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นแรง เช่น ญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 2.06% จีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้ บวก 1.28% ขณะที่ฮ่องกงร่วงลง -1.27%
ด้านค่าเงินบาทอ่อนที่ ปิดที่ 35.82 บาท

นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,936.13 ล้านบาท รองลงมาสถาบันขายสุทธิ 185.69 ล้านบาท  ส่วนนักลงทุนไทยซื้อสุทธิ 2,047.14 ล้านบาท

นายกรภัร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี พัฒนสิน (KCS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นพักฐาน หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 5 วันทำการ ยืนเหนือ 1,400 จุด  หลังการประชุมกนง.ที่มีมติไม่เอกฉันท์คงดอกเบี้ย ซึ่งมี 2 เสียงเห็นควรลดดอกเบี้ยลง ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์ของไทยและต่างประเทศมีการประเมินวงจรดอกเบี้ยของไทยใหม่ คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 1-3 ครั้ง ทำให้ค่าเงินบาทอ่อน นักลงทุนขายปรับพอร์ต

อย่างไรก็ตามมองเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีสัญญาณฟื้นตัวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยและมีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงขึ้น

สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่ 1,400 และ 1,410 จุด ส่วนแนวรับ 1,385 จุด

กลยุทธ์การลงทุนแนะตั้งรับ ธีมการลงทุนยังอิงวงจรดอกเบี้ยขาลงเอื้อต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ,หุ้นที่มีหนี้จำนวนมากได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยลง