MINT ปี 66 กำไร 5,407 ลบ. โต 26% แย้มยอดจองห้องพักก.พ.-มี.ค.นี้พุุ่ง

HoonSmart.com>> “ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” (MINT) โชว์กำไรงวดปี 66 อยู่ที่ 5,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% กวาดรายได้รวม 153,486 ล้านบาท เติบโต 22% ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุน EBITDA เติบโต 30% แย้มประเดิมต้นปี 67 รายได้ห้องพักเดือนม.ค.พุ่ง ยอดจองล่วงหน้าเดือนก.พ.-มี.ค.ทั้งในและต่างประเทศทะลัก

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2566 มีกำไรสุทธิ 5,407.05 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.65 บาท เพิ่มขึ้น 26% จากงวดปี 2565 กำไรสุทธิ 4,286.37 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานโดยรวมของทั้งกลุ่มในปี 2566 อยู่ที่ 153,486 ล้านบาท เติบโต 22% จากชวงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่มาจากความต้องการการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและกลยุทธ์การตั้งราคาของบริษัท อีกทั้งการฟื้นตัวของการรับประทานอาหารภายในร้านและการนําเสนอผลิตภัณฑ์ที่มี
นวัตกรรมใหม่ส่งผลให้การดําเนินงานของกลุ่มร้านอาหารเติบโตขึ้น

บริษัทมีกําไรจากการดําเนินงานก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) เติบโตอัตรา 30% เทียบกับชวงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 42,742 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตมากกว่ารายได้จากการดําเนินงานที่มีประสทธิภาพของทั้ง ไมเนอร์โฮเทล์ส และไมเนอร์ ฟู้ ด รวมถึงความคล่องตัวของกลยุทธ์การบริหารค่าใช้จ่ายและการเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทช่วยให้บริษัทสามารถก้าวผ่านสถานการณ์เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงมาไปได้ด้วยดี อีกทั้งยังมีการเติบโตของ EBITDA จากการดําเนินงานที่สูงขึ้น

บริษัทมีผลกําไรสุทธิจากการดําเนินงานในปี 2566 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 7,132 ล้านบาท สูงกว่าระดับของปี 2562 โดยมีกลุ่มธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รวมไปถึงประสิทธิภาพในการดําเนินงานและความสามารถในการเปลี่ยนรายได้เป็นกําไรของบริษัท เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในสวนของกําไรบริษัท ส่งผลให้บริษัทมีผลกําไรสุทธิจากการดําเนินงานในปี 2566 สูงสุดทําลายสถิติที่ผ่านมาในไตรมาส 4 ปี 2566

ในขณะเดียวกันกําไรสุทธิจากการดําเนินงานของปี 2566 อยู่ที่ 2,501 ล้านบาท เทียบกับจํานวน 2,379 ล้านบาทในชวงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มในอนาคต บริษัทเริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 โดยมีรายได้จากห้องพักในเดือนม.ค.และรายได้จากการจองห้องพักล่วงหน้าในเดือนก.พ.และมี.ค.สูงกว่าระดับของปี 2566 ถึง 39% สําหรับประเทศไทยและที่ 20% สําหรับทวีปยุโรป

แนวทางของบริษัทในการสร้างผลกําไรและการเติบโตที่มีความยืดหยุ่นในปี 2567 ได้รับการสนับสนุนจากความมุ่นมั่นในการเพิ่มมูลค่าที่สูงให้กับผู้ถือหุ้น รวมไปถึงลูกค้าอีกด้วยบริษัทยังเห็นถึงการกลับมาอย่างแข็งแกร่งของนักท่องเที่ยวชาวจีน แม้ในประเทศจีนจะพบกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ การท่องเที่ยวทั่วโลกจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องด้วยปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวจากรัฐบาลในบางประเทศ เสริมด้วยจํานวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

บริษัทได้มีการวางแผนกลยุทธ์ 3 ปีใหม่สําหรับ ปี2566 – 2569 และได้มองเห็นถึงโอกาสการเติบโตอย่างแข็งแกร่งแม้จะมีฐานของผลประกอบการที่สูงแล้วก็ตาม บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ที่ 8-10% ต่อปี ในวิธีคํานวนแบบ CAGR ในระหว่างที่การเติบโตของผลกําไรจะอยู่ที่ 15-20% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของรายได้ เหตุผลมาจากการขยายเพิ่มของอัตรากําไรสุทธิและจากการดําเนินงานที่มีประสทธิภาพ ในปี 2569 บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษา ROIC ให้อยู่เหนือ 10%