HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 10.77 จุด แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศ กังวลสงครามการค้าหลังจีนตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีการค้าส่วนเพิ่มอีก 15% สำหรับสินค้าเกษตรสหรัฐ ส่วนในประเทศกอง TESG 2 ช่วยชะลอแรงขายไม่มาก นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 884.39 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,172.44 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้แกว่งลง แนวรับ 1,156-1,130 แนวต้าน 1,200-1,210 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 4 มี.ค.68 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,177.64 จุด ลดลง 10.77 จุด หรือ -0.91% มูลค่าซื้อขาย 42,016.45 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,195.66 จุด ต่ำสุด 1,173.13 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 884.39 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 633.49 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,172.44 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 654.57ล้านบาท
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้พยายามทรงตัวถึงปรับตัวขึ้นแต่ก็ยังไม่พ้น 1,200 จุด แล้วก็อ่อนตัวลงในช่วงท้ายตลาด จากความกังวลสงครามการค้าหลังจีนมีการตอบโต้กลับด้วยการขึ้นภาษีกับสินค้าบางประเภท 15% ทำให้มีความเสี่ยงที่เงินเฟ้ออาจจะปรับขึ้นในอนาคต ซึ่งสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สร้างแรงกดดันให้ตลาดต่างประเทศปรับตัวลง โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ต่างปรับตัวลงกัน
ส่วนในประเทศแม้จะออกกองทุน TESG 2 มารองรับ LTF แต่ก็ช่วยชะลอแรงขายได้ไม่มาก และยังไม่มีปัจจัยอะไรมาเกื้อหนุนด้วย ทำให้ดัชนีฯหลุด Low เดิม 1,187 จุด หากยังลงต่ำกว่าตรงนี้มากนักสัญญาณก็จะไม่ดี พร้อมให้ติดตามสถานการณ์การตอบโต้ภาษี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (7 มี.ค)
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ทิศทางหลักตลาดยังแกว่งลง โดยมีแนวรับ 1,156-1,130 จุด แนวต้าน 1,200-1,210 จุด หากยังไม่เหนือแนวต้านนี้ตลาดก็ยังแกว่งลงอยู่
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT ปิดที่ 39.75 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ -5.92% มูลค่าซื้อขาย 3,061.76 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 268.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.11% มูลค่าซื้อขาย 2,617.86 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.40% มูลค่าซื้อขาย 1,529.97 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 11.10 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ -2.63% มูลค่าซื้อขาย 1,414.02 ล้านบาท
TOP ปิดที่ 22.60 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -4.24% มูลค่าซื้อขาย 1,412.38 ล้านบาท
———————————————————————————————————————————————————–
