หุ้นโตเกียวเช้านี้บวก-เอเชียร่วง ประธานเฟดส่งสัญญาณยื้อลดดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นโตเกียว” เช้านี้บวกตามตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นปลายสัปดาห์ ด้านเงินเยนแข็งค่าหนุนกลุ่มส่งออก “ตลาดหุ้นเอเชีย” ปรับตัวลดลงทั้งภูมิภาคยกเว้นตลาดญี่ปุ่น หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุจะระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้ มีแนวโน้มจะดำเนินการช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก
      
ตลาดหุ้นโตเกียวเช้านี้ปรับตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐที่พุ่งขึ้นในปลายสัปดาห์ ซึ่งดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐหนุนกลุ่มส่งออก
      
หุ้นที่นำการปรับขึ้นคือ กลุ่มอุปกรณ์ขนส่ง กลุ่มโลหะที่ไม่ใช่เหล็ก และกลุ่มธนาคาร    

เช้านี้เวลา 9.00 น. ตามเวลาในญี่ปุ่น เงินดอลลาร์อยู่ที่ 148.48-51 เยน จาก 148.35-45 เยน ในตลาดนิวยอร์กและจาก 146.62-64 เยนในตลาดโตเกียว เวลา 17.00 น. ในวันศุกร์
      
au Jibun Bank รายงาน กิจกรรมภาคบริการญี่ปุ่นเดือนมกราคมเพิ่มขึ้นมาที่ 53.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน จาก 51.5 ในเดือนธันวาคม เป็นผลจากกระแสธุรกิจใหม่ และความต้องการจาต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน     

ณ เวลา 9.17 น. ในประเทศไทย
     
ดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอยู่ที่ 36,338.78 จุด เพิ่มขึ้น 180.76 จุด, +0.5%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงทั้งภูมิภาคยกเว้นตลาดญี่ปุ่น หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) นายเจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า เฟดจะดำเนินการอย่างระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และมีแนวโน้มที่จะดำเนินการช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้มาก
      
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นประมาณ 6 จุดในช่วงแรกของการซื้อขายในเอเชีย
      
นายพาวเวลล์ให้สัมภาษณ์รายการ 60 นาทีของ CBS ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ในสหรัฐอเมริกา หลังมีการบันทึกเทปไว้ก่อนที่ข้อมูลการจ้างงานจะเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทในสหรัฐฯ ปรับขึ้นเงินเดือนในเดือนมกราคมมากที่สุดในรอบปี
      
นักลงทุนให้น้ำหนักน้อยลงที่ 20% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมีนาคม จากเกือบ 40% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจลดโอกาสที่จะมีการผ่อนคลายนโยบาย หลังการรายงานข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ
      
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 353,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ซึ่งสูงกว่า 185,000 ตำแหน่ง จากผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของ Dow Jones จาก ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่า 3.8% ที่นักวิเคราะห์คาด นอกจากนี้ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่า 4.1% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.6% สูงกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด ทั้งนี้ค่าจ้างรายชั่วโมงเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
      
แม้การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมจะลดลง แต่ตลาดยังคงคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งในปีนี้ เอ็ด ยาร์ดเดนี ประธานYardeni Research ระบุในบทวิเคราะห์
      
นักลงทุนจับตาตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงเนื่องจากความเชื่อมั่นยังคงอยู่ในระดับต่ำสุด เมื่อวันอาทิตย์หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนให้คำมั่นว่าจะป้องกันความผันผวนของตลาดที่ผิดปกติ แต่ไม่มีการประกาศมาตรการที่เฉพาะเจาะจง อีกทั้งยังกล่าวอีกว่า จะปราบปรามการขายชอร์ต(short-selling) ด้วยเจตนาไม่ดี รวมทั้งดึงดูดการลงทุนมากขึ้นด้วยเงินทุนระยะยาว และรับฟังเสียงของนักลงทุนอย่างจริงจัง
      
นอกจากนี้ยังรอการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมกราคมของจีนจาก Caixin ในเช้าวันนี้ รวมไปถึงข้อมูลเศรษฐกิจของอีกหลายประเทศในภูมิภาค ทั้งยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ เงินเฟ้อของไทย
      
ในสัปดาห์นี้ วันซื้อขายของตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์จะน้อยลง เนื่องจากเทศกาลตรุษจีน
      
ดัชนี SSE ตลาดหุ้นจีนอยู่ที่ 2,699.65 จุด ลดลง 30.5 จุด, -1.12%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงอยู่ที่ 15,483.74 จุด ลดลง 49.82 จุด, -0.32%
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีอยู่ที่ 2,576.85 จุด ลดลง 38.46 จุด, -1.47%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันอยู่ที่ 18,038.13 จุด ลดลง จุด, -0.12%
      
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 0.13 ดอลลาร์หรือ 0.18% ซื้อขายที่ 72.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.2 หรือ 0.26% ซื้อขายที่ 77.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล