HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดร่วง 15.41 จุด ซึมลงหลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน แนวเดียวกับตลาดต่างประเทศที่ติดลบ แรงกดดันจากนโยบายภาษีของ”ทรัมป์” ล่าสุดจะเก็บภาษี 25% ฝั่งยุโรป นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,550.81 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,556.82 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบ 1,205-1,225 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 27 ก.พ.68 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,215.73 จุด ลดลง 15.41 จุด หรือ -1.25% มูลค่าซื้อขาย 56,035.29 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,235.11 จุด ต่ำสุด 1,212.54 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,550.81 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 48.26 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,556.82 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 42.25 ล้านบาท
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ซึมตัวลงหลังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะติดลบ และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนลบ แรงกดดันจากนโยบายภาษีของ”ทรัมป์”ที่จะเรียกเก็บภาษี 25% จากฝั่งยูโรโซน แต่ล่าสุดดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกได้หลังงบฯ NVDIA ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย
ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี, กลุ่มไฟแนนซ์ และกลุ่ม ICT จากแรงขายทำกำไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงโค้งสุดท้าย และการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ในเย็นวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) รวมถึงติดตามนโยบายภาษีของ”ทรัมป์”ต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.) ตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ในกรอบ 1,205-1,225 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
CPALL ปิดที่ 52.25 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -3.69% มูลค่าซื้อขาย 7,343.75 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 281.00 บาท ลดลง 4.00 บาท หรือ -1.40% มูลค่าซื้อขาย 3,018.15 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท หรือ +5.60% มูลค่าซื้อขาย 2,859.85 ล้านบาท
BH ปิดที่ 193.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.50 บาท หรือ +5.18% มูลค่าซื้อขาย 2,409.92 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.00% มูลค่าซื้อขาย 2,255.71 ล้านบาท
