BTS ดิ่งต่ำสุดรอบ 11 ปี หวั่นขาดทุนหนัก ด้อยค่าเงินลงทุน

HoonSmart.com>>หุ้น BTS ร่วง 9% หวั่นรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุน JMART, SINGER, KEX หนัก จนอาจต้องตั้งด้อยค่า ด้าน BTS กำลังศึกษาอยู่ ลุ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมาใช้โปร 20 บาท จากเดิม 15-45 บาท เริ่ม 1 ก.พ.-30 เม.ย.นี้ ระยะ 3 เดือนจะดึงคนมาใช้บริการได้มากแค่ไหน หากไม่ถึงราว 1 แสนคน/วัน ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน รวมถึงกังวลสายสีชมพูอาจจะมีโปรแบบนี้ด้วย โบรกฯเล็งทบทวนประมาณการ

วันที่ 30  ม.ค.2567 หุ้น BTS ร่วงลงแรงผิดปกติ 9.02% หรือ -0.60 บาท ปิดที่ 6.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 916 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาปิดที่จุดต่ำสุดในรอบ 11 ปี

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ร่วงแรง คาดว่าจะเป็นผลจากการหยิบยกประเด็นที่สร้างความกังวลให้นักลงทุนในเรื่องการลงทุนของ BTS ในหุ้น JMART, SINGER และ KEX ซึ่งราคาหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวลงไปมาก ทำให้ BTS อาจจะต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุน และอาจจะต้องมีการตั้งด้อยค่าด้วยหรือเปล่า ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง BTS เคยตอบมาว่า อยู่ระหว่างศึกษาอยู่

“BTS ลงทุนหุ้น JMART, SINGER, KEX ในราคาที่สูงมากกว่าตอนนี้ ทำให้อาจต้องรับรู้ผลขาดทุนเข้ามา ซึ่งอาจจะต้องตั้งตั้งด้อยค่าด้วยหรือเปล่า แต่เคยถาม BTS ก็ได้คำตอบว่า อยู่ระหว่างศึกษาอยู่ จึงเป็นประเด็นที่นักลงทุนอาจหยิบยกขึ้นมาขายหุ้น BTS ในวันนี้ก็ได้ ”

นอกจากนี้ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองจัดโปร 20 บาทตลอดสาย จากเดิม 15-45 บาท จะเริ่ม 1 ก.พ.-30 เม.ย.นี้ เพื่อเป็นการดึงผู้โดยสารให้หันมาใช้บริการมากขึ้น ทุกวันนี้จำนวนผู้โดยสารมีแค่ 4-5 หมื่นคน/วัน ไม่ถึงจุดคุ้มทุนอยู่แล้ว ซึ่งจะถึงจุดคุ้มทุนจะต้องมีจำนวนผู้โดยสารราว 1 แสนคน/วัน ดังนั้นจะต้องดูว่าใช้โปร 20 บาท จะดึงคนมาใช้บริการได้มากขึ้นหรือไม่ เพราะเป็นโปรแค่ 3 เดือน แล้วหลังจาก 3 เดือนผุ้โดยสารจะยังใช้บริการต่อเนื่องหรือเปล่า เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามดูต่อไป เพราะหลายครั้งที่หมดโปรจำนวนผู้โดยสารก็ลดลง รวมถึงติดตามดูสายสีชมพูจะต้องใช้โปรด้วยหรือไม่ รวมถึงกทม.จ่ายหนี้สายสีเขียวจำนวน 2.3 หมื่นล้านบาท ล่าช้าด้วย

ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวนี้อาจทำให้นักวิเคราะห์ฯจะต้องมีการทบทวนประมาณการอีกครั้งหนึ่ง

ที่ผ่านมา ผลงานของ BTS ปรับตัวลง และงวดล่าสุด 6 เดือนปี 2567 (เม.ย.-ก.ย.) พลิกขาดทุนสุทธิ 515.38 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ 6 ราย แนะนำให้ซื้อ 3 ราย และให้ถือ 3 ราย โดยให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 8.57 บาท บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (20 พ.ย.66) ให้เป้าสูงสุดที่ 11.20 บาทโ บล.ยูโอบีเคย์เฮียนให้มูลค่าต่ำสุดที่ 7 บาท (2 ม.ค.67) ทั้งนี้ ในเดือนม.ค. 2567 บล.ทิสโก้ออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 9 บาท และ บล.กรุงศรีเชียรซื้อเป้าหมาย 8.50 บาท