HoonSmart.com>>บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดดัชนี SET แกว่งผันผวนแถว 1,235-1,260 จุด อาจเผชิญ Sentiment ลบตามตลาดต่างประเทศที่ร่วงลง รวมถึงแรงขาย TRUE หลังงบฯไตรมาส 4/67 ขาดทุนสูงกว่าคาด แต่ยังมีลุ้นรีบาวด์หลังร่วงแรงวานนี้ พร้อมเชียร์ MTC, SC
บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI คาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวผันผวนบริเวณ 1,235-1,260 จุด โดยมองว่าตลาดอาจเผชิญ Sentiment ลบตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ร่วงลง ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐ, ลอนดอน และยุโรป รวมถึงแรงขายหุ้นขนาดใหญ่อย่าง TRUE ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 7.5 พันล้านบาท สูงกว่าที่คาดว่าจะขาดทุน 1.6 พันล้านบาท จากการบันทึกด้อยค่าของทรัพย์สินที่สูงถึง 1.1 หมื่นลบ. สูงกว่าคาดที่ 4.2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดอาจมีโอกาส Technical rebound ในช่วงสั้น หลังร่วงลงกว่า 16.7 จุดเมื่อวานนี้ (20 ก.พ.) จากแรงขายหุ้นกลุ่ม NewCo หลังประกาศ XD
สำหรับปัจจัยต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างปธน. เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และนายเคลล็อกก์ ทูตพิเศษของประธานาธิบดี ทรัมป์ ถูกยกเลิกไปสร้างความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-ยูเครน
นอกจากนี้ ติดตามการเปิดเผยตัวเลขดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.พ. รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. ของสหรัฐคืนนี้
หุ้นแนะนำ MTC ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568 ที่ 15% โดยบริษัทคาดว่าต้นทุนเครดิตจะต่ำกว่าตัวเลขในไตรมาส 4 ปี 2567 ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของสินเชื่อจะมาจากสินเชื่อจำนำทะเบียนจักรยานยนต์ รถยนต์และที่ดิน ทั้งนี้ MTC เป็น Top pick สำหรับกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค (Take profit : 49.25 / Stop loss : 46.50)
SC ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท (+4.1% yoy) และรายได้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท (+11% yoy) โดยบริษัทจะเน้นการลดต้นทุนมากขึ้นเพื่อเพิ่มผลกำไร จึงคาดว่าการเติบโตของรายได้จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2568-2569 และความทางการตลาดที่แข็งแกร่งในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ (Take profit : 2.76 / Stop loss : 2.52)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงมาปิดลบ หลังหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกอย่าง Walmart (-6.5%) เปิดเผยคาดการณ์กำไรปี 2568 ที่ 2.5-2.6 เหรียญสหรัฐ/หุ้น ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.76 เหรียญสหรัฐ/หุ้น ฉุดให้หุ้นอย่าง Costco (-2.6%) และ Target (-2.0%) ต่างปรับตัวลดลงเช่นกัน ตลาดหุ้นสหรัฐยังเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร (Goldman Sachs, Morgan Stanley) และหุ้น Palantir (-5.2%) หลังมีรายงานว่า Pete Hegseth รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงร่างแผนการปรับลดงบประมาณ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัท กอปรกับแผนการซื้อขายหุ้นใหม่ของ Alex Karp ซีอีโอบริษัท
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐหลัง Conference Board รายงานตัวเลขดัชนี Leading Economic Index (LEI) เดือนม.ค.ปรับตัวลงมาที่ระดับ -0.3% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ -0.1% (เดือนธ.ค. +0.1%) ขณะที่จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 5,000 ราย สู่ระดับ 2.19 แสนราย สูงกว่าตลาดคาดที่ 2.15 แสนราย และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ.จากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟียขยายตัวที่ระดับ 18.1 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 19.4 (เดือนม.ค. 44.3)
ด้านบอนด์ยีลด์สหรัฐปรับตัวลดลง ดอลลาร์อ่อนค่าสวนทางเงินเยนที่แข็งค่าสูงสุดในรอบ 2 เดือนขานรับแนวโน้มที่ BOJ จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ (การประชุมครั้งถัดไปของ BOJ จะมีขึ้น 19 มี.ค.)
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.6% หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลง รวมถึงแนวโน้มอุปทานน้ำมันที่ลดลง
