ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 242 จุด GDP ไตรมาส 4 สูงเกินคาด

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 242 จุด ดัชนี S&P 500 บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขานรับ GDP ไตรมาส 4/66 ขยายตัว 3.3% สูงกว่าคาด บ่งชี้เศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเกินคาด เมินผลประกอบเทสลาน่าผิดหวัง ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ กว่า 3.02% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก แรงซื้อกลุ่มเทค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 24 มกราคม 2567 ที่ 38,049.13 จุด เพิ่มขึ้น 242.74 จุด หรือ +0.64% แม้ผลประกอบเทสลาน่าผิดหวัง แต่ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเกินคาด

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,894.16 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด, +0.53% บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,510.50 จุด เพิ่มขึ้น 28.58 จุด, +0.18%

แม้ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี แต่ยังคงปรับขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3% ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.1% ในขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.5% ในสัปดาห์นี้

ทั้ง S&P 500 และ Nasdaq ปรับสูงขึ้นในช่วงหกวันทำการที่ผ่านมา โดย S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ห้าวันติดต่อกัน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021

ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวในอัตรา 3.3% ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ 2% จากนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones มาก ซึ่งตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม

ในรายงาน GDP ยังมีข้อมูลสนับสนุนด้านอัตราเงินเฟ้อด้วย จากดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคลซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ดัชนีPCE พื้นฐาน(Core PCE )ที่ไม่รวมอาหารและพลังงานและเพิ่มขึ้น 3.2% ชะลอตัวลงจาก 5.1% ในไตรมาส 4 ปี 2022 ขณะที่ดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.7% ชะลอตัวลงจาก 5.9% ในไตรมาส 4 ปี 2022

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นที่มีการรายงาน เมื่อคืนนี้ ได้แก่การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 25,000 ราย มาที่ 214,000 ราย สูงกว่าตัวเลข 200,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นเทสลาลดลง 12% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2022 จากกำไรและรายได้ไตรมาส 4 ปี 2023 ที่ต่ำกว่าคาด ส่งผลกดดันดัชนีดาวโจนส์

กำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 4 ส่งผลให้ หุ้นไอบีเอ็มเพิ่มขึ้น 9.5%, หุ้นคอมแคสต์ ธุรกิจสื่อสารรายใหญ่ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.4% และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 10.3%

หุ้นโบอิ้ง ลดลง 5.7% หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) มีคำสั่งระงับแผนการเพิ่มสายการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX จนกว่า FAA จะมั่นใจได้ว่าปัญหาการควบคุมคุณภาพที่ถูกพบระหว่างการตรวจสอบนั้นได้รับการแก้ไขแล้ว

นักลงทุนรอดูการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) มาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เดือนธันวาคมในวันนี้

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นโนเกียปรับขึ้นจากผลการดำเนินงานรายไตรมาสดีกว่าคาด ขณะที่นักลงทุนขานรับการคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(ECB)

ที่ประชุม ECB คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4% ตามคาด และยืนยันความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่ตลาดยังคงคาดว่า ECB อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเกือบ 1.30% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับราว 1.50% ที่คาดไว้ราว 2 สัปดาห์ที่แล้ว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปี ลดลงมาที่ 2.293% หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนในระหว่างวัน

ตลาดยังคงคาดว่า ECB อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเกือบ 1.30% ในปีนี้ โดยลดลงจาก 1.50% ที่คาดไว้ราว 2 สัปดาห์ที่แล้ว

ตลาดหุ้นนอร์เวย์ปรับตัวขึ้นด้วย ขานรับธนาคารกลางนอร์เวย์คงอัตราดอกเบี้ยที่ 4.50% ตามคาด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปเพิ่มขึ้น 1.8% จากหุ้น ASML ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ชิปของเนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้น 4.6%

หุ้นอาดิดาสของเยอรมนี บวก 5.7% จากคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการทั้งปีที่ดีเกินคาด

หุ้นโนเกียของฟินแลนด์ พุ่งขึ้น 11.2% หลังรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 สูงเกินคาด

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 478.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.44 จุด, +0.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,529.73 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด, +0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,464.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.56 จุด, +0.11%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,906.92 จุด เพิ่มขึ้น 17.00 จุด, +0.10%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 3.02% ปิดที่ 77.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.39 ดอลลาร์ หรือ 2.99% ปิดที่ 82.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล