บลจ.กสิกรฯมองจีนอัดเงินพยุงตลาดหุ้น ชะลอความผันผวน จำกัดดาวน์ไซด์ระยะสั้น

HoonSmart.com>> “บลจ.กสิกรไทย” มองหุ้นจีนขานรับรัฐบาลเตรียมทุ่มอัดฉีดเงิน 2 ล้านล้านหยวนพยุงตลาด หลังหุ้นจีนร่วงหนัก เกือบแตะจุดต่ำที่สุดในรอบหลายปี คาดมาตรการไม่ดันตลาดหุ้นจีนกลับมาปรับตัวขึ้นแรง แต่ช่วยชะลอความผันผวน จำกัด Downside ได้ในระยะสั้น มุมมองลงทุนเป็น “กลาง” แนะมีหุ้นจินติดพอร์ตไม่เกิน 10-15%

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย (KAsset) โดย KAsset Investment Strategy มองตลาดหุ้นจีนปรับตัวดีขึ้นเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากถูกเทขายอย่างหนักตั้งแต่ปี 2566 มาจนถึงต้นปีที่ผ่านมา โดยการปรับตัวดีขึ้นนี้ เป็นผลมาจากรายงานที่ระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น ด้วยการอัดฉีดวงเงินราว 2 ล้านล้านหยวน (6% ของ Market Cap)

โดยเงินส่วนใหญ่จะมาจากบัญชีของรัฐสาหกิจจีนที่อยู่นอกประเทศ (Offshore) ซึ่งจะนำมาซื้อหุ้นในประเทศ (Onshore) ผ่าน Hong Kong exchange link อีกทั้ง ยังคาดว่าทางการจีนจะใช้วงเงินในประเทศอีกอย่างน้อย 3 แสนล้านหยวน เพื่อเข้าลงทุนหุ้นในประเทศ ผ่านบริษัท China Securities Finance Corp. หรือ Central Huijin Investment อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากการประชุมคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลจีนล่าสุด ที่มีนายหลี่ เฉียงเป็นประธานในการประชุม เพื่อรับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงานของตลาดทุน รวมทั้งพิจารณามาตรการที่เหมาะสม กระนั้น ทางการจีนยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ KAsset มองว่า ปัจจุบันมาตรการดังกล่าวยังไม่ได้มีการประกาศออกมาเป็นทางการ แต่ขนาดของมาตรการนับว่ามีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับช่วงปี 2558/2559 ที่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงแรง จนภาครัฐมีมาตรการในลักษณะเดียวกันเพื่อลดความผันผวน โดยมีเม็ดเงินเข้าซื้อราว 1 ล้านล้านหยวน ในช่วงเวลาระยะประมาณ 2 เดือน

แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากหมดช่วงเข้าซื้อตลาดหุ้นจีน ก็ปรับตัวลงต่อ สอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้น สำหรับมาตรการในครั้งนี้ เราคาดว่าอาจไม่ได้ทำให้ตลาดหุ้นจีนกลับมาปรับตัวขึ้นแรง แต่มีแนวโน้มช่วยชะลอความผันผวน และจำกัด Downside ได้ในระยะสั้น

หากขนาดของมาตรการเพียงพอที่จะหนุนตลาด และปัจจัยพื้นฐานอื่นๆ ของตลาดหุ้นจีนยังไม่ได้เปลี่ยนแปลง ส่วนในระยะถัดไป ตลาดจะกลับมาพิจารณาบนพื้นฐานการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์

บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นจีน เช่นเดิม อย่างไรก็ดี หากทางการจีนมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ เพิ่มเติมที่สามารถหนุนความเชื่อมั่นของภาคเอกชนและนักลงทุนได้ เราอาจจะพิจารณามุมมองตลาดหุ้นจีนอีกครั้ง โดยปัจจุบัน มูลค่าหุ้นจีนนั้นซื้อขายในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และได้สะท้อนความกังวลจากปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น ไปแล้วพอสมควร

“ยังคงแนะนำให้ นักลงทุนควรมีกองทุนหุ้นจีนติดพอร์ต ในสัดส่วนที่จำกัด ไม่เกิน 10-15% สำหรับผู้ที่ยังไม่มีกองทุนหุ้นจีน สามารถทยอยสะสมได้ ส่วนผู้ที่มีกองทุนหุ้นจีนอยู่ในพอร์ต สามารถถือต่อได้ ในสัดส่วนที่เหมาะสม”

อย่างไรก็ตามหากถือหน่วยลงทุนหุ้นจีนในสัดส่วนที่สูงกว่าสัดส่วนแนะนำ และมีความกังวลกับความผันผวนของตลาดหุ้นจีน แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาลดสัดส่วนกองทุนหุ้นจีนลงมา โดยแนะนำให้สับเปลี่ยนในส่วนที่เกินจาก 10-15% ไปลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ อินเดีย ญี่ปุ่น หรือเวียดนามแทน