HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปิดพุ่ง ดาวโจนส์บวก 342 จุด ทรัมป์เลื่อนเก็บภาษี Reciprocal Tariffs บรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุรัฐฐาลอายุ 10 ปีลดลง หุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ปรับตัวขึ้น ตลาดยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 13 ก.พ. 2568 ปิดที่ 44,711.43 จุด เพิ่มขึ้น 342.87 จุด หรือ +0.77% หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีศุลกากรในอัตราที่เท่ากัน ( Reciprocal Tariffs) แต่เลื่อนการดำเนินการออกไป ขณะที่นักลงทุนย่อยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,115.07 จุด เพิ่มขึ้น 63.10 จุด, +1.04%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,945.64 จุด เพิ่มขึ้น 295.69 จุด, +1.50%
ตลาดหุ้น ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี หลังการประกาศอัตราภาษีล่าสุดของประธานาธิบดี ทรัมป์ ยังไม่มีผลบังคับใช้เต็มที่เป็นเวลาอย่างน้อยหลายสัปดาห์ ช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกประกอบกับหลายบริษัทรายงานผลกำไรที่สูงกว่าคาด
ดาวโจนส์พุ่งแตะระดับสูงสุดหลังจากที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ลงนามในบันทึกประธานาธิบดีเพื่อประกาศแผนเก็บภาษีในอัตราที่เท่ากันกับต่างประเทศ แต่ยังไม่มีการดำเนินการจัดเก็บใดๆ นอกจากนี้เขายังบอกเป็นนัยว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม รวมถึงการนำเข้ารถยนต์ จากการรายงานของรอยเตอร์
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)ของเดือนมกราคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.4% สูงกว่า 0.3% จากการสำรวจนักวิเคราะห์ของ Dow Jones ส่วน Core PPI ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับการคาดการณ์
แม้ตัวเลขทำให้ดูว่าเงินเฟ้อร้อนแรง แต่รายงาน PPI ล่าสุดและข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคที่เผยแพร่ในวันพุธบ่งชี้ว่าดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล(personal consumption expenditures prices index)หรือ PCE ที่จะรายงานในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ ที่ธนาคารกลางสหรัฐติดตามอย่างใกล้ชิด นั้นจะอ่อนตัวลง
เมื่อนำข้อมูล PPI และCPI มาประมวลเข้าด้วยกัน ดัชนี PCE มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 0.22% ลดลงจาก 0.45% ในเดือนธันวาคม ตามการประมาณการของซิตี้กรุ๊ป นั่นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีลดลงเหลือ 2.5%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุรัฐฐาลอายุ 10 ปีลดลงหลังจากการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อมาที่ 4.531%
อดัม เทิร์นควิสต์ หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านเทคนิคของ LPL Financial กล่าวว่า องค์ประกอบที่ป้อนเข้าสู่ PCE คือจุดที่ทำให้ตลาดปรับขึ้นในวันนี้ และดึงอัตราผลตอบแทนลงเล็กน้อยเช่นกัน
การปรับขึ้นอย่างรวดเร็วของหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ก็มีส่วนหนุนตลาดโดยหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้นประมาณ 3.2% หลังจากที่ Hewlett Packard Enterprise กล่าวว่าได้จัดส่งโซลูชั่นแรกโดยใช้ชิป Blackwell ของ Nvidia หุ้น AppLovin ซึ่งเป็นหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้น 24% จากผลกำไรที่แข็งแกร่ง หุ้น Tesla เพิ่มขึ้น 5.8%
S6ho Cisco Systems เพิ่มขึ้น 2.1% หลังจากรายงานผลกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาสล่าสุดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ จากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์(AI)
ตลาดยุโรปปิดบวกที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนขานรับรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาดของ Siemens บริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี ขณะที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นจากสัญญานที่ว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 ปีมีแนวโน้มจะจบลงในเร้ซๆนี้
ดัชนีตลาดหุ้นเยอรมนีบวก 2% ดัชนีตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 1.5% และดัชนีตลาดหุ้นอิตาลีเพิ่มขึ้น 1%
Siemens ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นตัวแทนบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในวงกว้าง เพิ่มขึ้น 7.2% หลังจากไตรมาสแรกทำได้ดีกว่าประมาณการ และชี้ไปที่สัญญาณของการฟื้นตัวของความต้องการจากลูกค้าในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ บริษัทประสบปัญหาในจีนในไตรมาสก่อนๆ เนื่องจากคำสั่งซื้อลดลงเนื่องจากการขจัดสต๊อกสินค้าเป็นหลัก
หุ้นกลุ่มยานยนต์ขึ้นนำในดัชนี STOXX 600 โดยพุ่งขึ้น 4.4% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในวันเดียวในรอบปี และยังได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้น 4.9% ของ Michelin ผู้ผลิตยางรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสหลังจากที่รายงานผลประกอบการทั้งปีดีกว่าที่คาดไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสวิสเพิ่มขึ้น 1.8% โดย Nestle ขึ้นนำด้วยพุ่งขึ้น 6.2% หลังจากที่รายงานการเติบโตของยอดขายต่อปีดีกว่าคาด
ตลาดยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนอาจสรุปได้ในเร็วนี้ แม้ว่ายูเครนและพันธมิตรในยุโรปวิตกว่าพวกเขาจะถูกกีดกันจากการเจรจาสันติภาพก็ตาม
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศเพิ่มขึ้น 1% เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามีแนวโน้มว่าการใช้จ่ายด้านนี้จะเพิ่มขึ้นในยุโรป
นักลงทุนยังจับตาแผนการของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะประกาศภาษีตอบโต้หลังตลาดปิด
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 553.75 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด, +1.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,764.72 จุด ลดลง 42.72 จุด, -0.49%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,164.11 จุด เพิ่มขึ้น 121.92 จุด, +1.52%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,612.02 จุด เพิ่มขึ้น 463.99 จุด, +2.09%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 71.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน 16 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 75.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
