HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ดประเมินดัชนีทรงตัว แนวรับ 1,270 จุด แนวต้าน 1,290 – 1,300 จุด ตลาดเทรดบน P/E โซนถูก แต่การฟื้นตัวยังจำกัดหลังเฟดส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูง เงินเฟ้อสหรัฐฯสูงเกินคาด นักลงทุนโฟกัสงบ Q4/67 หุ้นเด่นแนะ BBL-IVL
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,270 จุด แนวต้าน 1,290 – 1,300 จุด คาดดัชนีทรงตัว เนื่องจากปัจจุบันเทรดที่ F/PE ปี ที่ 13.3 เท่าอยู่ในโซนถูก แต่การฟื้นตัวยังจำกัดหลังเฟดยังส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยสูง โดยนักลงทุนให้ความสนใจต่อการประกาศงบ Q4/67 ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร OR,JMART ที่รายงานกำไร Q4/67 ขยายตัวได้ดี
ขณะที่สถาบันชะลอแรงขาย หลังกระทรวงการคลังเตรียมปรับปรุงเงื่อนไขของให้ผู้ถือกองทุน LTF ที่ครบกำหนด 5 ปี สามารถโอนหรือตั้งกองทุนใหม่ใน Thai ESG ซึ่งจะช่วยลดแรงขายหุ้นในตลาด รวมถึงอาจพิจารณารื้อฟื้นกองทุน LTF กลับมาใหม่ เพื่อช่วยเสริมกำลังซื้อในตลาดหุ้นไทย
ส่วน MSCI รีบาลานท์ Global Standard Index ก.พ. ได้ถอด PTTGC, TOP ขณะที่ Small Cap นำเข้า 4 ตัว คือ GPSC,PTTGC,SCGP,TOP และถอด 11 ตัว คือ BSRC,TIPH,DCC,ERW,GFPT,KAMART,PSG,PSH,SAPPE,STECON,THG มีผลวันที่ 28 ก.พ.
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ Down Jones, S&P500 ปรับลดลง หลัง ก.แรงงานสหรัฐเผย US Core CPI ม.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ +3.3% & คาด +3.1% YoY และ +0.4% & คาด +0.3% MoM สาเหตุมากจากราคาที่อยู่อาศัย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 30% ในดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐ ม.ค. +0.4% MoM, ราคาอาหาร +0.4% และราคาพลังงาน +1.1% บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดจะชะลอการลดดอกเบี้ยในการประชุม 19 มี.ค.
นอกจากนี้ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรส ชี้ภาวะเศรษฐกิจยังขยายดี, อัตราว่างงานต่ำ, เงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมายที่ 2% ดังนั้นเฟดจีงไม่มีความจำเป็นต้องรีบลดดอกเบี้ย หลังปีก่อนเฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 1 %
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐค่ำวันนี้ติดตาม US PPI ม.ค. คาด 0.3% & ธ.ค. 0.2% MoM รวมถึงประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมประกาศ มาตรการปรับขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ ( Reciprocal Tariff ) กับทุกประเทศที่เก็นภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐ
หุ้นแนะนำ IVL (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.50 บาท) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 คาดประคองตัว QoQ แม้ปริมาณขายลดลงตามฤดูกาล แต่คาดยังเติบโตได้ YoY จากฐานที่ต่ำและกลยุทธ์ลดต้นทุน ส่วนในปี 68 ตลาดคาดพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท จากปี 67 ที่ขาดทุน 1.8 หมื่นล้านบาท จากการผ่านช่วง asset optimization นอกจากนี้คาดว่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากต้นทุน feedstock และนโยบายของสหรัฐ รวมถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจีนและการ destocking ที่คลี่คลาย
หุ้น BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 182.00 บาท) กำไร Q4/67 อยู่ที่ 10,404 ล้านบาท -16.6% QoQ, +17.4% YoY ปรับดีขึ้น YoY มาจากรายได้จากเงินลงทุนและรายได้ค่าธรรมเนียมปรับสูงขึ้น กอปรกับ C/I ratio ลดลง YoY เมื่อเทียบกับ Q4/66 ที่ระดับ 56.0%โดยภาพทั้งปี BBL มีกำไรปี 67 รวมอยู่ที่ 45,211 ลบ. +8.6% YoY ได้แรงหนุนจาก NIM +4 Bps อยู่ที่ 3.06% สินเชื่อขยายตัว +0.8% YoY, กำไรจากเงินลงทุนและ FVTPL ปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนปี68 ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไร BBL ที่ 4.65 หมื่นล้านบาท +2.9% YoY บนสมมุติฐานสินเชื่อเติบโต +2% YoY , อัตรา NIM ไว้ที่ 3.0% , รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น Single Digit จากบัตรเครดิต, ประกันและกองทุนรวม ด้านสำรอง ECL คาดสามารถปรับลดลงเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนกำไร ขณะที่ Coverage Ratio สูงถึง 334% ซึ่งเพียงพอรองรับความเสี่ยงหนี้เสียในอนาคต