สั่งฟ้อง 7 ผู้ต้องหาคดี STARK ‘วนรัชต์-ยศบวร’ สอบเพิ่ม

HoonSmart.com>>ศาลรับฟ้อง 7 ผู้ต้องหาคดี “สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น” ( STARK ) เป็นบุคคล 2 ราย “ศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ-นาตยา ปราบเพชร” และนิติบุคคล บริษัทในเครือสตาร์คฯ 5 ราย ส่วน”วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” และ”ยสบวร อำมฤต” อัยการขอสอบสวนเพิ่มเติม  “ชินวัฒน์ อัศวโภคี” มือกฎหมายของ STARK รอด

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566  ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งฟ้องคดีทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) จำนวน 7 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน โดยศาลฯได้ประทับรับฟ้อง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.90/2567

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย

จำเลยที่ 1.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ

2.บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น โดยนายอรรถพล วัชระไพโรจน์ และนายปริญญา จั่นสัญจัย กรรมการผู้มีอำนาจ

3.บริษัท เฟิลปส์ คอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์)  โดยนายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจ

4.บริษัท อดิสรสงขลา  โดยนายอภิชาติ ตั้งเอกจิต กรรมการผู้มีอำนาจ

5.บริษัท ไทย เคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดยนายอรรถพล วัชระไพโรจน์ กรรมการผู้มีอำนาจ

6.บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด โดยนายกิจจา คล้ายวิมติ และนายอภิชาติ ตั้งเอกจิต กรรมการผู้มีอำนาจ

7.น.ส.นาตยา ปราบเพชร

ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 ราย ได้แก่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ,นางสาวยสบวร อำมฤต ,นายชนินทร์ เย็นสุดใจ และนายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม นั้น นายวนรัชต์ และนางสาวยสบวร ที่เดินทางเข้ามาพบพนักงานอัยการในวันนี้ (12 ม.ค.) พนักงานอัยการยังไม่มีคำสั่งฟ้อง เพราะยังต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติม ส่วนนายชนินทร์ อยู่ระหว่างหลบหนี และนายกิตติศักดิ์ ที่ไม่มาอ้างว่าป่วย ขณะที่นายชินวัฒน์ อัศวโภคี มือกฎหมายของ STARK รอด

สำหรับข้อหาที่พนักงานอัยการฯได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 รายต่อศาลอาญา ได้แก่ ฐานความผิดร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้งในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์หรือร่างหนังสือชี้ชวนที่ยื่นตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ในสาระสำคัญ

พนักงานอัยการฯขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และขอศาลได้สั่งให้จำเลยทั้ง 7 ร่วมกันคืนเงินที่ฉ้อโกงไปจำนวนกว่า 14,778 ล้านบาทที่ยังไม่ใด้ คืนให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ 4,692 ราย และผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 12 ราย ผู้เสียหาย ,ให้จำเลยที่ 1 ร่วมกันคืนเงินที่ยักยอกไปจำนวน 741,172,250 บาท ที่ยังไม่ได้คืนให้แก่ STARK ปรับจำเลยที่ 1,2 เป็นเงินสองเท่าของราคาขายของหลักทรัพย์ทั้งหมดที่จำเลยที่ 1,2 ได้เสนอขายโดยไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท และปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงินสองเท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นหรือประโยชน์ที่ได้รับโดยไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท

ทั้งนี้นายศรัทธาและน.ส.นาตยาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลพิเคราะห์เเล้ว คดีนี้ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการแห่งคดีแล้ว ข้อหามีอัตราโทษสูง การกระทำที่ถูกกล่าวหา มีลักษณะสร้างความเสียหายต่อเศรษกิจและสังคมโดยรวมมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวยกคำร้องและถูกควบคุมตัว