ADVANC ปี 67 กำไร 35,075 ลบ. โต 21% จ่ายปันผล 5.74 บ. XD 20 ก.พ.นี้

HoonSmart.com>>”แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส” (ADVANC / AIS) โชว์กำไรปี 67 ที่ 35,075 ล้านบาท เติบโต 21% จากปี ก่อน รายได้รวม 213,569 ล้านบาท เติบโต 13% จากรับรู้รายได้ TTTBB บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่-อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ขายอุปกรณ์ ด้านไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิ 9,259 ล้านบาท เติบโต 32% จ่ายปันผล 5.74 บาท/หุ้น ขึ้น XD 20 ก.พ. ส่วนปี 68 ตั้งเป้ารายได้จากการให้บริการหลัก กำไร EBITDA โตตีคู่เศรษฐกิจที่  3-5% งบลงทุน 26,000-27,000 ล้านบาท

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส รายงานผลดำเนินงานปี 2567 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 35,075.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 11.79 บาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 29,086.11 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.78 บาท ตามผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รวมถึงการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม  213,569 ล้านบาท เติบโต 13%  ซึ่งเป็นผลจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB การเติบโตของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมถึงรายได้จากการขายอุปกรณ์

รายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ NT) อยู่ที่ 162,363 ล้านบาท เติบโต 17%  จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการเติบโตของบริการลูกค้าองค์กร (ไม่รวมโทรศัพท์เคลื่อนที่)

ส่วนรายได้จากการขายอุปกรณ์และซิม อยู่ที่ 38,076 ล้านบาท เติบโต 3%   ตามการมุ่งเน้นการขายอุปกรณ์ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตรากำไรของยอดขายอุปกรณ์มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจาก 1.8% ในปี 2566 เป็น 5.6% ในปี 2567 จากการบริหารส่วนลดค่าเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพ

ปี 2567 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 113,243 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักและผลกระทบเชิงบวกจากการรวมการดำเนินงานของ TTTBB ร่วมกับส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF โดย EBITDA margin อยู่ที่ 53% เพิ่มขึ้นจาก 50% ณ สิ้นปี 2566 จากการเติบโตของรายได้ การปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรของยอดขายอุปกรณ์ และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 ปี 2567 EBITDA เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB ร่วมกับการมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไร และส่วนแบ่งกำไรจาก 3BBIF โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 9,259 ล้านบาท เติบโต 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนตามการเติบโตของรายได้ การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และอัตรากำไรของยอดขายอุปกรณ์ที่ปรับตัวดีขึ้น

ไตรมาส 4/2567 AIS มีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 41,898 ล้านบาท เติบโต 13%   เป็นผลจากการรับรู้รายได้ TTTBB เต็มไตรมาส เมื่อเทียบกับการรับรู้รายได้ 46 วันในไตรมาส 4/2566 ร่วมกับการเติบโตของทุกธุรกิจหลัก และเติบโต 2.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากปัจจัยตามฤดูกาล

ต้นทุนการให้บริการปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรวมต้นทุนของ TTTBB ขณะที่ทรงตัว -0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยค่าเสี่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 12% จากค่าใช้จ่ายสินทรัพย์สิทธิการใช้จากการควบรวม TTTBB ขณะที่ลดลงเล็กน้อย -0.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากสินทรัพย์สิทธิการใช้ถูกตัดจำหน่าย ส่วนของค่าใช้จ่ายโครงข่าย เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้นชดเชยกับค่าใช้จ่ายพันธมิตรกับ NT ที่ลดลง ขณะที่เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากค่าใช้จ่ายจากการเป็นพันธมิตรกับ NT ที่สูงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการตั้งสำรองด้อยค่าอุปกรณ์ที่ล้าสมัยประมาณ 1,000 ล้านบาท ชดเชยกับค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลง ขณะที่เพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากค่าใช้จ่ายการตลาดและการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ซึ่งถูกชดเชยด้วยค่าใช้จ่ายพนักงานที่ลดลง

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติจ่ายปันผลงวดดำเนินงานวันที่ 1 ก.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 เป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญ ในอัตรา 5.74 บาทต่อหุ้น  กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) 21 ก.พ. 2568 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 20 ก.พ. 2568 วันที่จ่ายปันผล 10 เม.ย. 2568

สำหรับปี 2568 AIS ตั้งเป้าแนวโน้มการเติบโต ทั้งรายได้จากการให้บริการหลัก และกำไร EBITDA ควบคู่ไปกับการเติบโตเศรษฐกิจที่ประมาณ 3-5% โดยกำไร EBITDA เติบโตจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น กระบวนการควบรวมกิจการ และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ในส่วนของงบประมาณการลงทุนอยู่ที่ 26,000 ถึง 27,000 ล้านบาท โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนที่สร้างกำไรเป็นหลัก

นายมนตรี คงเครือพันธุ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน AIS กล่าวว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกความท้าทายในการดำเนินธุรกิจทั้งสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศยังต้องเผชิญกับหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงส่งผลให้ภาพรวมก็ยังไม่ได้เติบโตเท่าที่ควร

“AIS พยายามปรับตัวเพื่อสู้กับความท้าทายที่เกิดขึ้น โดยมุ่งส่งประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ประกอบกับดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ ทำให้ในปี 2567 สามารถรักษาการเติบโตของผลประกอบการได้ตามเป้าหมาย โดยทำรายได้รวม 213,570 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 35,075 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบลงทุนในปี 2568 ไว้ที่ 26,000 – 27,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับขีดความสามารถของ Digital Infrastructure ของประเทศไทยไปอีกขั้น ทั้งโครงข่ายมือถือและเน็ตบ้าน ยกระดับการใช้ชีวิตคนไทยให้มีคุณภาพอย่างทั่วถึง เท่าเทียม รวมถึงระบบคลาวด์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่เป็น Backbone สำคัญของภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”นายมนตรีกล่าว

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ให้บริการรวมอยู่ที่ 45.8 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านเลขหมายจากปี 2566 จากความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น และการนำเสนอบริการดิจิทัลที่หลากหลายจนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ขณะที่ผู้ใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านเลขหมาย เติบโต 31% จากปีก่อนหน้า ตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการขยายโครงข่ายอัจฉริยะ AIS 5G ที่วันนี้มีความครอบคลุมแล้วมากกว่า 95% ของพื้นที่ประชากร และยังได้รับการการันตีเป็นโครงข่าย 5G อันดับ 1 ของไทย กวาด 12 รางวัลยอดเยี่ยมจาก Ookla®

ธุรกิจบรอดแบนด์ ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ภายใต้ AIS 3BB FIBRE3 มีผู้ใช้บริการรวมอยู่ที่ 5 ล้านราย เติบโตขึ้น 243,000 รายจากปีที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการรับรู้รายได้ของ 3BB ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งและการมุ่งนำเสนอนวัตกรรมเน็ตบ้าน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าสำหรับผู้ใช้งาน อาทิ นวัตกรรมเน็ตบ้าน Home FibreLAN ที่ทำให้ทุกห้องภายในบ้านสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วระดับ 1 Gbps และ AI-powered Smart Router เราเตอร์อัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 22% จากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นนำนวัตกรรมและโซลูชันมาตอบโจทย์ภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะบริการคลาวด์และโครงข่ายข้อมูล ซึ่งในปีที่ผ่านมา AIS ได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระดับโลก อาทิOracle Cloud ร่วมกันเปิด Hyperscale Cloud บริการคลาวด์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน มีความปลอดภัยและการปกป้องข้อมูลเป็นไปตามข้อกำหนดด้านการจัดเก็บข้อมูลของประเทศไทย สอดคล้องกับการเติบโตดิจิทัลของภาคธุรกิจไทย รวมถึงโครงการ GSA Data Center ดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกที่เชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างครบวงจร เน้นใช้พลังงานสะอาด และมีระบบการเก็บรักษาข้อมูลที่ปลอดภัยสูงสุด

———————————————————————————————————————————————————–