ดาวโจนส์ปิดลบ 125 จุด รอผลการดำเนินงาน Amazon-ข้อมูลจ้างงาน

HoonSmart.com>>ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 125 จุด สวนดัชนี S&P 500,Nasdaq ปิดบวกท่ามกลางการซื้อขายผันผวน นักลงทุนประเมินรายงานผลประกอบการและรอผลประกอบการของ Amazon หลังปิดตลาด ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรคืนนี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 6กุมภาพันธ์ 2568 ปิดที่ 44,747.63 จุด ลดลง 125.65 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดบวกท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนประเมินรายงานผลประกอบการและรอผลประกอบการของ Amazon หลังปิดตลาด รวมไปถึงการรายงานการจ้างงานสำคัญในวันศุกร์

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,083.57 จุด เพิ่มขึ้น 22.09 จุด, +0.36%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,791.99 จุด เพิ่มขึ้น 99.66 จุด, +0.51%

หุ้น Amazon ปิดบวก 1.1% ก่อนรายงานผลประกอบการ นักลงทุนจับตาการลงทุนด้าน AI หลังจากที่โมเดล AI ราคาต่ำกว่าของสตาร์ทอัพจีน DeepSeek ทำให้มีการพิจารณาการลงทุนมูลค่าหลายพันล้านของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI

ซาคารี ฮิลล์ หัวหน้าฝ่ายบริหารพอร์ตโฟลิโอของ Horizon Investments กล่าวว่า ความสนใจหลักอยู่ที่ผลการดำเนินงานมากกว่านโยบายภาษีศุลกากร และการลงทุนที่เน้น AI มีความผันผวนค่อนข้างมากในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาจากข่าว DeepSeek และตลาดกำลังรอว่า Amazon จะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร

อย่างไรก็ตามภาษีศุลกากรแม้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาในขณะนี้ แต่ยังเป็นประเด็นที่นักลงทุนนำมาคำนวณไปอีกระยะหนึ่ง

นักลงทุนรอรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในเดือนมกราคม ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Dow Jones คาดการณ์ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะเพิ่มขึ้น 169,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม

หุ้นเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลง โดยหุ้น Qualcomm และหุ้น Arm ต่างลดลงกว่า 3% หุ้น Skyworks Solutions ลดลงกว่า 24% หลังจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาส หุ้น Ford

Motor ก็ร่วงลง 7% หลังจากที่บริษัทคาดการณ์ว่าในปี 2025 จะเจอความท้าทาย

หุ้น Honeywell บวกกว่า 5% และฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง หลังจากที่บริษัทรายงานคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และยังประกาศว่าจะแยกธุรกิจออกเป็นสามบริษัท

หุ้น Philip Morris พุ่งขึ้นเกือบ 11% จากการรายงานรายได้และรายได้ดีกว่าที่คาดสำหรับไตรมาสที่สี่

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ ได้แก่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจากกระทรวงแรงงานซึ่งเพิ่มขึ้น 11,000 ราย มาที่ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่า213,000 รายที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดยุโรปปิดบวก ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด นำโดยบริษัทเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ของแผนสันติภาพของยูเครน

ดัชนีอ้างอิงในเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ต่างเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5%

กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานปรับขึ้นมากสุด โดยเพิ่มขึ้น 4% หลังจาก ArcelorMittal ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก คาดการณ์ว่าความต้องการเหล็กจะดีขึ้นในปี 2025 ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 13.3% ขณะที่บริษัทเหมืองสวีเดน Boliden เพิ่มขึ้น 13% จากรายได้หลักในไตรมาสที่สี่ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้

หุ้น Aurubis ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ที่สุดของยุโรปรายงานกำไรก่อนหักภาษีไตรมาสแรกสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 7.4%

ขณะเดียวกัน ดัชนีหุ้นในประเทศซึ่งมีตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ใกล้กับรัสเซียปรับตัวขึ้น เช่น ออสเตรีย พุ่งขึ้น 3.4% โปแลนด์พุ่งขึ้น 2.6% และฟินแลนด์ขยับขึ้น 1.8% หลังจากรายงานระบุว่า การเตรียมการสำหรับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ มีความคืบหน้า ทำให้เกิดความคาดหวังว่าใกล้จะได้ข้อตกลงยุติความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียที่กินเวลานานเกือบ 3 ปี

ดัชนีกลุ่มการบินอวกาศและการป้องกันประเทศลดลง 0.9% และถือเป็นการลดลงภายในวันเดียวที่มากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งสัปดาห์ โดยหุ้น Saab AB, Rheinmetall และ Hensoldt และอื่นๆ ลดลงระหว่าง 4.5% ถึง 6.1%

หุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้นกว่า 2 เท่านับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันก่อน

หุ้น Maersk บริษัทชิปปิ้งรายใหญ่ของเดนมาร์กบวก 6.3% จากผลการดำเนินงานไตรมาสสี่ดีกว่าคาด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงหกสัปดาห์แรกของปี 2025 เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นที่มีราคาถูกในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางแนวโน้มนโยบายที่กระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 544.84 จุด เพิ่มขึ้น 6.28 จุด, +1.17%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,727.28 จุด เพิ่มขึ้น 103.99 จุด, +1.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 8,007.62 จุด เพิ่มขึ้น 115.94 จุด, +1.47%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,902.42 จุด เพิ่มขึ้น 316.49 จุด, +1.47%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 70.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 74.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
———————————————————————————————————————————————————–