HoonSmart.com>>”ซีพี ออลล์” (CPALL)ไม่ปฎิเสธข่าว ได้รับการทาบทามร่วมทุนเซเว่นฯญี่ปุ่น มูลค่าดีล 1.9 ล้านล้านบาทยันหากพิจารณาข้อเสนอใดๆ จะทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เน้นประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ทางด้าน บล. บัวหลวงมองดีลไม่น่าสนใจ มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย หากจะต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 22,000 ล้านบาท ได้ผลตอบแทนแค่ 2% ต่ำกว่าต้นทุนเงินที่ 4%
นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ กรณีที่ข่าวโดยสื่อต่างประเทศ เรื่องบริษัทค้าปลีกญี่ปุ่นมองหาผู้ร่วมลงทุนหลายราย ซึ่ง CPALL เป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกอ้างถึงในข่าว โดยยังไม่มีข้อสรุปเงื่อนไข และการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนแต่ประการใด บริษัทฯขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทฯมีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจ
ในกรณีที่บริษัทฯพิจารณาข้อเสนอใดๆในการลงทุน บริษัทฯจะดำเนินการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง โดยเน้นประโยชน์สูงสุด
ของบริษัทฯ ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ เป็นสำคัญ
ทางด้านบล.บัวหลวงวิเคราะห์ดีล Seven&i กำลังเจรจาเครือ CP ร่วมซื้อกิจการเลี่ยงถูกครอบงำกิจการ คาดมูลค่าดีลอยู่ที่ 58,000 ล้านดอลลาร์ (1.9 ล้านล้านบาท) สูงกว่าข้อเสนอ Couche-Tard ที่ 47,000 ล้านดอลลาร์ (1.6 ล้านล้านบาท) คาดการลงทุนร่วมกันมีหลายฝ่ายทั้งนี้ในส่วนของกลุ่ม CP คาดใช้เงินหลายแสนล้านเยน หรือมากกว่า 22,000 ล้านบาท ประเมินว่าโอกาสเกิดขึ้นกับ CPALL มีน้อย เพราะดีลไม่น่าสนใจ เนื่องจาก
1.กำไรต่อหุ้น Seven&i 2 ปีที่ผ่านมาผันผวนและเติบโตต่ำ 3.3%ต่อปี
2.มูลค่าดีลตามข่าวไม่ถูก เทียบเท่า PER ปัจจุบัน 85.7 เท่า หรือ FwdPER 50 เท่า (vs CPALL ซื้อขาย PER ปัจจุบัน 21.5 เท่า และ FwdPER 20.8 เท่า)
3.synergies กับกิจการเซเว่นในไทยมีน้อย
แต่หากเกิดขึ้นจริงมองเป็นลบ เพราะอัตราผลตอบแทนของดีลนี้แต่ละปีก่อนหักต้นทุนการเงินจะต่ำ 2.5% ต่ำกว่าต้นทุนทางการเงินของ CPALL ปัจจุบันราว 4% ดังนั้นถ้าต้องกู้เงินเพื่อลงทุนอาจกระทบต่อกำไรมี downside และเสี่ยงที่ฐานะการเงินจะตึงตัวขึ้นจากปัจจุบันที่ Net D/E 0.84 เท่า
ขณะที่ผลการดำเนินงานของ CPALL เติบโตดี บล.พายคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 6,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันปีก่อนและเติบโต 14% จากไตรมาสที่ 3 ได้รับแรงหนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่คาดเติบโต 3.2% จากปีก่อน จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานและ Personal Care ที่เติบโตดี รวมถึงการเติบโตของกำไร CPAXT ของยอขายสาขาเดิม (Marko+1% และ Lotus’s +1.5%)
นอกจากนี้คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2568 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานเครื่องดื่ม รวมถึงสินค้าใหม่จาก SME จึงคงคำแนะนำซื้อ มูลค่าพื้นฐาน 80 บาท
ด้านราคาหุ้น CPALL วันที่ 31 ม.ค. 2568 ร่วงลงแรง 4.50 บาทหรือ -7.96% ปิดที่ 52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดของวัน 9,707.75 ล้านบาท เพราะความกังวลเกี่ยวกับการระดมเงินลงทุนมหาศาล อาจจะต้องกู้เงินสูงมากจนกระทบต่อกำไร และยังต้องประเมินความคุ้มค่าของการได้มาด้วย