KCS แนะเลี่ยง “PTT-PTTGC” รอโครงสร้างราคาก๊าซฯชัดเจน

HoonSmart.com>>กรุงศรี พัฒนสิน มองการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ Negative ต่อกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี แนะเลี่ยง PTT,PTTGC ไปก่อนรอความชัดเจน ส่งผลบวกต่อกลุ่มขายไฟอุตสาหกรรม

บล.กรุงศรี พัฒนสิน(KCS)มองว่าจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 23 ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการก๊าซฯโดยปรับไปใช้ Single pool => นำก๊าซฯอ่าวไทย (ราคาล่าสุด 219 บาท/ mmbtu) ส่วนที่เข้าโรงแยกก๊าซฯ(ยกเว้นส่วนที่นำไปใช้สำหรับเชื้อเพลิง) มาคิดถัวเฉลี่ยกับแหล่งอื่น (พม่า และ LNG) ด้วยเพื่อทำให้ราคา pool gas ต่ำลง โดยประเมินทำให้ราคาก๊าซฯ ม.ค. – เม.ย. 24 ลดลงราว 25 บาท/mmbtu มาที่ 362 บาท/mmbtu Vs. เดิมราว 387 บาท/mmbtu และลดค่าไฟได้ราว 11.5 สตางค์/หน่วยนั้น จะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า แต่จะส่งผลลบ หรือ Negative ต่อความเสี่ยงการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง PTT และ PTTGC

ทั้งนี้ PTT i) กรณีแบกรับภาระผู้เดียว (สมมติฐานปริมาณก๊าซฯเข้าโรงแยกก๊าซฯ ราว 770-870 mmscfd, ปริมาณราว 70% เป็นส่วนที่โดนผลกระทบ และต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 143 บาท/mmbtu[ราคา pool ใหม่ 362 – 219 ราคาก๊าซฯอ่าวไทย]) ประเมินกระทบกำไรหลังภาษีฯ ของ PTT ราว -22,506–25,429 ล้านบาท/ปี คิดเป็นราว -20-21% ของกำไร 2567-2568F หรือ กระทบ TP67F ราว -8.2–9.3 บาท/หุ้น หรือ -17-19% ของ TP67F และ

ii) กรณี แบ่งภาระบางส่วนให้ PTTGC ผลกระทบกำไร คาดราว -15,136–17,101 ลบ. หรือ -13-14% กระทบ TP67F ราว -5.5-6.3 บาท/หุ้น ส่วน PTTGC หากสุดท้ายการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯเกิดขึ้นจริง และต้องแบกรับภาระ
ร่วมกับ PTT เบื้องต้นคาดกระทบกำไรของ PTTGC ราว -7,370-8,328 ล้านบาท/ปีหรือ -58-103% และกระทบ TP67F ราว 16-18 บาท/หุ้น (หากอ้างอิง PER ราว 10 เท่า)

ทั้งนี้ คงมุมมอง Neutral ต่อกลุ่มพลังงานฯ ไม่มีtop pick แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน PTT และ PTTGC ไปก่อนจนกว่าการปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ ชัดเจน

สำหรับกลุ่มโรงไฟฟ้า ประเด็นปรับโครงสร้างราคาก๊าซฯ KCS มองเป็นผลบวก หรือ Positive ต่อผู้ที่ขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) อย่าง GPSC และ BGRIM ที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯที่ลดลง คงคำแนะนำ Neutral ต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า คง top pick เป็น GULF (TP50.0) และ GPSC (TP65.0)