CPALL ร่วง 5.75% กังวลใช้เงินลงทุนเยอะ หาก”ซีพี”จะเทคฯ 7-11 ในญี่ปุ่น

HoonSmart.com>>หุ้น CPALL ร่วง 5.75% หลังข่าวรายงาน 7&I (7-11 ในญี่ปุ่น) ต้องการให้กลุ่มซีพีเข้าไปเทคโอเวอร์ 7-11 ในญี่ปุ่น สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนใช้เงินลงทุนเยอะ อาจต้องกู้เงิน ต้องประเมินความคุ้มค่าด้วย  ด้านกลุ่มซีพียังเงียบ บล.บัวหลวงประเมินโอกาสเกิดขึ้นมีน้อย ดีลไม่น่าสนใจ ส่วนพื้นฐานของ CPALL น่าสนใจ Valuation ไม่แพง งบฯไตรมาส 4/67 จะโตทั้ง QoQ และ YoY อีกทั้งได้มาตรการรัฐฯหนุน

เมื่อเวลา 10.28 น.หุ้น CPALL ร่วง 5.75% มาที่ 53.25 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,453.39 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 55.25 บาท ขึ้นสูงสุด 55.50 บาท และต่ำสุด 52.75 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้น CPALL ปรับตัวลงด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาหนาแน่น คาดว่าจะเป็นผลจากข่าวที่ออกมาจากนอกประเทศที่ระบุว่า Seven & I (7&I) (7-11 ในญี่ปุ่น) อยากจะให้กลุ่มซีพีเข้าไปเทคโอเวอร์ 7-11 ในญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มซีพียังเงียบอยู่ ด้วยประเด็นนี้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเงินลงทุน ซึ่งอาจจะต้องระดมทุนจำนวนมาก อาจต้องกู้เงิน และยังต้องประเมินความคุ้มค่าของการได้มาด้วย ตอนนี้ต้องรอดูว่ากลุ่มซีพีสนใจหรือไม่

ในแง่ปัจจัยพื้นฐานของ CPALL มีความน่าสนใจ และ Valuation ยังไม่แพง รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงยังได้มาตรการภาครัฐหนุน

บล.บัวหลวง ระบุว่า ข่าว Seven & I กำลังเจรจาเครือซีพี ร่วมซื้อกิจการเสี่ยงถูกครอบงำกิจการ โดยมูลค่าดีลคาดอยู่ที่ 58 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.9 ล้านล้านบาท) สูงกว่าข้อเสนอ Couche-Tard ที่ 47 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1.6 ล้านล้านบาท) จึงคาดการลงทุนร่วมกันมีหลายฝ่าย ทั้งนี้ส่วนของกลุ่มซีพี คาดใช้เงินหลายแสนล้านเยน (มากกว่า 22 พันล้านบาท)

พร้อมประเมินว่าโอกาสเกิดขึ้นกับ CPALL มีน้อย เพราะดีลไม่น่าสนใจ โดย EPS ของ Seven & I ใน 2 ปีที่ผ่านมาผันผวนและเติบโตต่ำ 3.3% ต่อปี และมูลค่าดีลตามข่าวไม่ถูกเทียบเท่า PER ปัจจุบัน 85.7 เท่า หรือ Fwd PER 50 เท่า รวมทั้ง Synergies กับกิจการเซเว่นในไทยมีน้อย

แต่หากเกิดขึ้นจริง มองเป็นลบ เพราะอัตราผลตอบแทนของดีลนี้แต่ละปีก่อนหักต้นทุนการเงินจะต่ำ 2.5% ต่ำกว่าต้นทุนทางการเงินของ CPALL ปัจจุบันราว 4% ดังนั้นถ้าต้องกู้เงินเพื่อลงทุนอาจกระทบต่อกำไรมี Downside และเสี่ยงที่ฐานะการเงินจะตึงตัวขึ้นจากปัจจุบันที่ Net D/E 0.84 เท่า