HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 136 จุด หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง “ประธานเฟด” ส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ”ลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกทำสถิติสูงสุดเป็นประว้ติการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 29 มกราคม 2568 ปิดที่ 44,713.52 จุด ลดลง 136.83 จุด หรือ -0.31% แต่ฟื้นจากระดับต่ำสุดของวัน หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด ในการตัดสินใจเชิงนโยบายครั้งแรกของปี ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญานไม่รีบลดดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 6,039.31 จุด ลดลง 28.39 จุด, -0.47%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,632.32 จุด ลดลง 101.26 จุด, -0.51%
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.25% ถึง 4.50% ตามคาด และแถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดให้มุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังปรับลดลงได้ค่อนข้างยาก (Sticky Inflation) และอธิบายถึงการหยุดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
“อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับต่ำในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และสภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง” ข้อความใหม่ในแถลงการณ์ระบุ “อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่บ้าง”
เฟดได้ตัดคำว่าอัตราเงินเฟ้อ “มีความคืบหน้า” ไปสู่เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเฟด โดยข้อความใหม่ในแถลงการณ์ระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงอยู่บ้าง” และ “อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับต่ำในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และสภาวะตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง”
เดวิด รัสเซลล์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดระดับโลกของ TradeStation กล่าวว่าแถลงการณ์ของเฟดออกมาในแนวนโยบายการเงินที่เข้มงวด(hawkish) เล็กน้อย แต่ผู้กำหนดคงอัตราดอกเบี้ยยาวไปจนถึงการประชุมในเดือนมีนาคม ข้อมูลระหว่างนี้และหลังจากนั้นจะเป็นตัวกำหนดแนวทางสำหรับการตัดสินใจครั้งใหญ่ครั้งต่อไป
หลังเฟดเผยแพร่แถลงการณ์ตลาดปรับตัวลดลงต่อ โดยช่วงหนึ่งดัชนี Nasdaq ลดลงกว่า 1% ในช่วงบ่าย
ตลาดกลับมาฟื้นตัวเมื่อประธานเฟดเริ่มพูดในงานแถลงข่าวหลังจากการเผยแพร่แถลงการณ์ โดยกล่าวว่า “เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับจุดยืนนโยบายของเรา” และนโยบายการเงินก็ “อยู่ในสถานะที่เหมาะสม” ในการรับมือกับความท้าทายต่างๆที่กำลังเผชิญอยู่
นอกจากนี้พาวเวลล์ยังกล่าวอีกว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีผลอย่างไร และเฟดต้องใช้เวลาในการประเมินนโยบายใหม่ของรัฐบาล
แถลงการณ์เฟดไม่ได้ส่งสัญญานว่าช่วงไหนที่อาจมีการลดดอกเบี้ยอีก แต่เทรดเดอร์มองว่ามีโอกาสประมาณ 44% ที่จะลดดอกเบี้ยภายในสิ้นปี ลดลงจากประมาณ 48% ก่อนแถลงการณ์ของเฟด สะท้อนให้เห็นถึงการลดลงของความเชื่อมั่นที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สองครั้งในปีนี้
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงสู่ระดับต่ำสุดหลังการตัดสินใจของเฟด โดยหุ้นธนาคารขนาดใหญ่และธนาคารระดับภูมิภาคแตะระดับต่ำสุด หุ้น JPMorgan Chase และ Bank of America ลดลง 0.4% และ 0.2% ตามลำดับ หุ้น Regions Financial ลดลง 0.3% และหุ้น Huntington Bancshares ลดลง 0.9%
หุ้นเทคโนโลยีฉุดดัชนี S&P 500 มากที่สุด โดย หุ้นMicrosoft ลดลง 1.1% หุ้น Nvidia ลดลง 4.1% จากรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้หารือที่จะจำกัดการขายชิปของ Nvidia ให้กับจีน หลังจาก DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัปของจีนได้เปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนต่ำ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนธันวาคม ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธันวาคม
ตลาดยุโรปปิดบวกและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยีหลังการรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของ ASML บริษัทผลิตอุปกรณ์ชิป ขณะที่นักลงทุนจับตาการตัดสินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
กลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 2.5% เป็นการปรับขึ้นภายในวันเดียวที่มากสุดในรอบสามสัปดาห์
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 534.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, +0.50%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,557.81 จุด เพิ่มขึ้น 23.94 จุด, +0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,872.48 จุด ลดลง 24.89 จุด, -0.32%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 21,637.53 จุด เพิ่มขึ้น 206.95 จุด, +0.97%
หุ้น ASML บริษัทบริษัทผลิตอุปกรณ์ชิป เนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 5.6% หลังจากรายงานยอดจองไตรมาสสี่ที่ดีเกินคาดที่ 7.09 พันล้านยูโร (7.39 พันล้านดอลลาร์)
ผลประกอบการของ ASML ยังสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าแนวโน้มชิป AI ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ราคาหุ้นฟื้นตัวจากการถูกเทขายเมื่อต้นสัปดาห์นี้ จากการเปิดตัวโมเดล DeepSeek ของจีน ซึ่งใช้พลังงานในการประมวลผลน้อยกว่าคู่แข่ง
หุ้นเซมิคอนดักเตอร์อื่นๆ ทั้งSTMicroelectronics , BE Semiconductor และ ASM International เพิ่มขึ้นระหว่าง 0.8% ถึง 3.1%
หุ้นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Schneider Electric และ Siemens Energy ซึ่งได้รับผลกระทบเมื่อวันจันทร์ ก็ปรับขึ้น 4.7% และ 4.9% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาการตัดสินใจนโยบายการเงินของเฟดที่จะออกมาหลังตลาดปิดซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่รอการให้ความเห็นของประธานเจอโรม พาวเวลล์ เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 72.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง
91 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 76.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล