3 เสี่ย ‘ป๋อง-ยักษ์-ปู่’ แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นปี 67

HoonSmart.com>> 3 ขาใหญ่ตลาดหุ้น มีความหวังว่าหุ้นไทยปี 2567 จะดีกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา หลังจากขาดทุนกันระนาว จากหลายปัจจัยลบ ซ้ำโดน Robot กระทืบซ้ำ “เสี่ยป๋อง”เปลี่ยนกลยุทธ์ เล่นยาวขึ้น ให้โบรกฯเตรียมทำใจวอลุ่มเทรดอาจลดลง ส่วน”เสี่ยยักษ์”มองตลาดไม่น่าทำนิวโลว์แล้ว  จะค่อย ๆ ขยับขึ้น สนใจหุ้นที่ร่วงไปมาก ด้าน “เสี่ยปู่”  ยังทยอยลงทุนหุ้นเติบโตดี ราคาถูก โดยเฉพาะหุ้นคาร์บอนเครดิต

วัชระ แก้วสว่าง

นายวัชระ แก้วสว่าง “เสี่ยป๋อง” ขาใหญ่วงการหุ้น เปิดเผยว่า ปี 2566 ที่ผ่านมา ยอมรับว่ามองทิศทางตลาดยากมาก ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจการลงทุนในปี 2567 เท่าไร แต่ก็คาดหวังว่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และยังไม่กล้าฟันธง เพราะกราฟไม่ได้โชว์ว่าจะดี ภาพระยะสั้นแค่รีบาวด์ การที่ดัชนีปิดต่ำกว่าระดับ 1,460 จุด ยังต้องลุ้นแนวโน้มต่อไป

“ปีนี้หลายคนมอง Positive แต่ผมดูแล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะดี  ปี 2566 ผมขาดทุนหนัก ทั้งที่มองดีมาตั้งแต่ต้นปี ติดกับดัก จากที่มองเปิดประเทศ, เลือกตั้ง, ตลาดต่างประเทศขึ้นกันหมด  คิดว่าตลาดไทยน่าจะรีบาวด์ได้บ้าง ทำให้ผมลดพอร์ต แต่ไม่ทั้งหมด แล้วตลาดก็ร่วงมาตลอด เลยติดหุ้นอยู่ บางตัวหายไป 50-60% มองว่าตลาดหุ้นร่วง มาจากหลายองค์ประกอบ”

เสี่ยป๋อง กล่าวว่า เดี๋ยวนี้เล่นสั้นรายวันเหนื่อย ต้องหันมาเล่นยาวมากขึ้น จะสู้กับ Robot ยาก หากินรายวัน จบแล้ว สู้ไม่ได้เลย ไล่ ๆ อยู่ มันกระทืบใส่เลย (ขายใส่) ก็ต้องไปเป็นนักลงทุนยาวขึ้น ถือสัก 4-5 วัน  บอกโบรกเกอร์ให้ทำใจวอลุ่มของปีนี้จะลดลง เพราะผมสู้ไม่ไหว ตลาดบ้านเราเป็นตลาดเสรี จะเอา Program Trade ออกไปเลยคงจะไม่ได้ ซึ่งที่เล่นกัน กินสั้นเล่นสั้น ถ้าหันมาใช้แบบสหรัฐฯเล่นยาวจะดี

“ผมคิดว่าคนเล่นยาว ถูกตัว พื้นฐานดีจริง Robot ก็ไม่กระทบ แต่เล่นรายวันกระทบ หากปรับสูตรให้เล่นยาวหน่อยจะดี เพราะสูตรที่ใช้กับคนไทยมันโหด ขายอย่างเดียว แต่จะห้ามเลย ปิดประตูบ้านเลยมันก็แปลก ๆ ถ้าไปหักเลย  ไม่มี Professional มองเป็นกลางนะ ซึ่งผมก็ได้รับกระทบเต็ม ๆ แต่ไม่เป็นไรปีนี้ตั้งหลักใหม่ ต้องเลือกออกหมัดใหม่ มองเป้าเป็นตัว ๆ ละเอียดมากขึ้น อาจกระทบวอลุ่มโบรกฯ แต่ Robot คงจะทำให้วอลุ่มเยอะขึ้นเอง”

วิชัย วชิรพงศ์

นายวิชัย วชิรพงศ์ “เสี่ยยักษ์” รายใหญ่ตลาดหุ้นไทย มองตลาดหุ้นปี 2567 จะดีกว่าปีที่ผ่านมา จากทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลง เงินบาทแข็งค่าขึ้น รัฐบาลตั้งลำได้และเริ่มทำผลงาน ตลาดคงจะค่อย ๆ ปรับขึ้นไปหลังจากผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ยอมรับว่าปี 2566 พอร์ตลงทุนขาดทุนเหมือนคนอื่น ๆ แต่เริ่มเห็นมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงปลายปี

“มีหุ้นบางตัวจากเดิมไม่ค่อยมีคนมอง ตอนนี้คนก็หันมามองกันคือ หุ้น MGI เป็นหุ้นขนาดเล็ก เล่นกันถึง 3 ซิลลิ่ง ทำให้หุ้นขนาดเล็กตัวอื่นเริ่มยืนได้ หุ้นที่ปรับตัวลงไปแล้ว มีเด้งกลับขึ้นไปได้ ส่วนคนที่ขายหมูไปแล้ว ก็ต้องกลับมามอง ภาพระยะสั้นถ้าไม่มีอะไร ตลาดก็ไม่น่าจะทำ New Low แต่คงจะค่อย ๆ ขึ้นไป เลือกตัวเล่นไป ซึ่งมองตลาดยังไม่ดีเลิศเลอ แต่จะค่อย ๆ ขึ้นไป เพราะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว”

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจลงทุนมองเป็นหุ้นที่ปรับตัวลงไปมาก จะกลับมาและจะให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน ส่วน Program Trading อยากให้เอาออกไปเลย เพราะอยู่ก็ทำลายความมั่นใจตลาด ตอนนี้ทางการก็พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดอยู่ ต้องรอดูกันไปว่าจะเป็นอย่างไร

สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล

นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล “เสี่ยปู่” นักลงทุน VI แห่งวงการตลาดหุ้น คาดหวังว่าพอร์ตลงทุนจะดีขึ้นในปี 2567 หลังจากปีที่ผ่านมา พอร์ตขาดทุนมากกว่า 10% โดยมองกำไรของบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ยังเติบโต ดังนั้นราคาหุ้นก็ต้องปรับขึ้นไปได้ ส่งผลให้พอร์ตลงทุนน่าจะพลิกเป็นกำไรได้ในปีนี้

“ผมดูภาวะตลาดตอนนี้ ราคาหุ้นถูก หลายตัว ตอนนี้ทยอยซื้ออยู่ หุ้นลงก็ซื้อ สนใจหุ้นกรีน พวกที่ทำธุรกิจคาร์บอนเครดิต ซึ่งมอง 3-5 ปีจะมีคนสนใจเยอะ ภาวะโลกร้อนกระทบทั่วโลก สุดท้ายจะสำคัญมาก อย่างหุ้น DITTO ลงทุนมานาน บริษัทกล้าลงทุนเสี่ยงปลูกป่าก่อนล่วงหน้า ตอนนี้ถืออยู่เกิน 5% และจะซื้อเพิ่มไปเรื่อย ๆ แม้จะเทรด P/E ที่ยังสูงอยู่ แต่มองเป็นหุ้นเติบโตสูง และมีธุรกิจคาร์บอนเครดิตด้วย”

“เสี่ยปู่”กล่าวต่อว่า หุ้นหลายตัวไม่ขาย แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงจนเทรด P/E ในระดับที่ต่ำ เพราะเป็นหุ้นที่กำไรโต และยังให้ผลตอบแทนปันผลที่ดีด้วย ตอนนี้หุ้นหลายตัวเริ่มรีบาวด์ขึ้น ทิศทางก็น่าจะดีขึ้นได้

“สำหรับ Program Trade น่ากลัวทั้งบริษัทที่ลงทุน และรายย่อย เดี๋ยวนี้ซื้อกันได้ มีให้บริการตามโบรกเกอร์ รายใหญ่เล่นได้ แต่ผมไม่เล่น ไม่อยากทำร้ายนักลงทุนด้วยกัน ไม่เล่นจะเสียเปรียบก็ไม่เป็นไร เราเลือกลงทุนหุ้นที่เติบโตก็ได้ แต่เรื่องนี้ทางภาครัฐกำลังดูอยู่ อยากให้เอาออกไปเลยดีเหมือนกัน เพราะจะยุติธรรมกับรายย่อย”