HoonSmart.com>>เคทีซี เปิดตัว “วิไลวรรณ นพรัตน์”แม่ทัพไอทีคนใหม่ นำทีมยกระดับองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าย้ายฐานข้อมูลลูกค้า 3 ล้านราย คู่ค้า เข้าทำงานบนระบบใหม่เดือน ก.ย. นี้ ย้ำปลอดภัย รวดเร็ว แม่นยำ ขอเวลา 2 ปีเติมธุรกิจใหม่
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) เปิดเผยว่า เคทีซีได้แต่งตั้งนางวิไลวรรณ นพรัตน์ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการโทรคมนาคมมามากกว่า 20 ปี ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารสูงสุด สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เป็นผู้บริหารหญิงไอทีคนแรกของบริษัท จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรเคทีซีไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน “Building a Sustainable Future Through Digital Transformation”
บริษัทได้วางงบลงทุนในการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มปีนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท ทั้งในฮาร์ดแวร์ ซอล์ฟแวร์ การเพิ่มกำลังคน การสร้างบุคคลากรที่มีอยู่ให้มีความรู้และทักษะด้านดิจิทัลเพิ่มขึ้น จนถึงการส่งต่อสินค้า บริการ ไปถึงมือลูกค้าและคู่ค้า โดยจะมีการจะย้ายฐานข้อมูลและกระบวนการทำงานทั้งหมดที่เป็น Core Business ไปเข้าระบบ Core Payment Platform ซึ่งเป็นระบบใหม่ในเดือน ก.ย.นี้ เริ่มจากงานด้านบัตรเครดิตก่อน
“ที่ผ่านมาเราก็มีการปรับเทคโนโลยี และพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง แต่การทำงานหลายส่วนยังทำงานในระบบเก่าอยู่ จึงต้องการที่จะนำกระบวนการทั้งหมดเข้าสู่การทำงานบนระบบดิจิทัล จะทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้ และออกแบบสินค้าที่ตอบสนองลูกค้าได้ทันกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์และบริการมีคุณภาพและความปลอดภัยสูงขึ้น ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ลูกค้าอยู่กับเราในระยะยาว”นางพิทยา กล่าว
นางพิทยา กล่าวว่า หลังจากทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ดิจิทัลเต็มตัว ใน 2 ปีนี้ คือปี 2568-2569 จะทำให้มองเห็นโอกานในการทำธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเติมนอกเหนือจาก 3 ธุรกิจที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากฐานลูกค้า 3 ล้านราย และคู่ค้าอีกหลายหมื่นราย
ปีนี้ตั้งเป้าลูกค้าเปิดบัตรเครดิตใหม่ 2.5 แสนใบ เพิ่มการใช้จ่ายผ่านบัตรให้ถึง 10% ด้วยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ไม่ต่ำกว่า 320,000 ล้านบาท พอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัวที่ 4-5% และคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) รวมให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2% โดยครึ่งเดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 9% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นได้ตามแผนในไตรมาส 2 เพราะเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวหลายวันที่จะเกิดการเดินทางท่องเที่ยว ส่วนโครงการคุณสู้ เราช่วย นั้นยังเงียบๆ แม้จะมีการส่งเอสเอ็มเอสให้กับลูกค้าที่ค้างชำระเกิน 5,000 บาท ซึ่งมีไม่มาก ลูกค้าก็ยังเงียบๆ
3 แผนดิจิทัลทรานส์ฟอร์ม
นางวิไลวรรณ นพรัตน์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (Head of Information Technology) เปิดเผยว่า จากโรดแมปด้านไอทีสำหรับปี 2568-2569 ที่จะทำการยกระดับศักยภาพบุคลากรและระบบสารสนเทศให้ก้าวล้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องของระบบ Core Payment Platform เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ
บริษัทฯได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านไอทีชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญสูง ในการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับเวิลด์คลาสล่าสุดมาใช้แบบ Total Solutions ในการเสริมสร้างความสามารถด้านการจัดการข้อมูล
อีกทั้งช่วยให้การประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความปลอดภัยสูง รองรับการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่สมาชิกและพันธมิตรทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับการเติบโตของเคทีซีในอนาคต
“จะนำประสบการณ์ที่มีกว่า 20 ปี และความคิดนอกกรอบที่เคยอยู่ในธุรกิจโทรคมนาคม มาสร้างความแตกต่าง เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนให้กับเคทีซี”นางวิไลวรรณ กล่าว
นางวิไลวรรณ กล่าวว่า นอกเหนือจากการลงทุนในเรื่องของเทคโนโลยีแล้ว ยังจะใช้ไปกับการสร้างคนใน 3 ด้าน คือ สร้างบุคลากรให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ หรือ Citizen Developers รวมทีมงานที่เชี่ยวชาญสร้างนวัตกรรมตอบโจทย์สมาชิก หรือ Fusion Team ยกระดับประสบการณ์สมาชิกด้วย AI หรือ AI – Powered technology
1.การสร้างบุคลากรให้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ เพราะการทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จ ปัจจัยที่สำคัญคือ ศักยภาพของคนในองค์กรที่ต้องมีความรู้ความสามารถด้านไอที โดยจะเพิ่มคนไอทีจาก 70 คน เป็น 100 คน จะสร้าง Citizen Developers ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200 คน เพื่อให้บุคลากรทุกคนมีส่วนร่วมในกระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบงาน โดยใช้เครื่องมือ Low-Code มาปรับใช้ เพื่อช่วยให้บุคลากรในองค์กรปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเรียนรู้และฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บุคลากรมีทักษะที่พร้อมสำหรับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ
2.รวมทีมงานที่เชี่ยวชาญสร้างนวัตกรรมตอบโจทย์สมาชิก หรือการสร้าง “Fusion Team” ซึ่งเป็นทีมงานที่รวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสายงานมาทำงานร่วมกัน ทัังงานเซล มาร์เก็ตติ้ง ปฏิบัติการ กฎหมาย บัญชี ตรวจสอบ เพื่อสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสมาชิก รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3.ยกระดับประสบการณ์สมาชิกด้วย เพราะในยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจในการเปลี่ยนถ่ายระบบสารสนเทศที่ใช้อยู่เดิม ปัจจุบันมีการนำโซลูชั่นส์ที่ใช้เทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำงานต่างๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การทำนายผลลัพธ์ การตัดสินใจอัตโนมัติ และการโต้ตอบกับผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ใช้กับธุรกิจได้
“หลังจากที่มีการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเสร็จ จะทำให้สามารถทำระบบการชำระเงิน วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และนำเสนอสินค้าและบริการ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง จับพฤติกรรมต่างๆ ได้ 24 ชั่วโมง และจากการที่ระบบมี AI ร่วมด้วย จะมีการแจ้งเตือนถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ทันที และระบบใหม่นี้จะสามารถรองรับลูกค้าได้มากขึ้น ”นางวิไลวรรณ กล่าว