บลจ.ไทยพาณิชย์ รุกนักลงทุนผ่านช่องทางดิจิทัล ซื้อกองทุน SCB SET Index ผ่านแอพพลิเคชัน SCBAM Fund Click ไม่เกิน 1 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียมการจัดการ 0.7% เริ่มกลาง ธ.ค. นี้ “ณรงค์ศักดิ์” ย้ำเป็นหนึ่งกลยุทธ์เพิ่มลูกค้าให้ได้ 1.5 ล้านรายใน 3 ปี ไม่ใช่การตัดราคาในอุตสาหกรรม
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลางเดือน ธ.ค. นี้ จะยกเว้นค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ในอัตรา 0.7% ของมูลค่าหน่วยลงทุน และ ค่าธรรมเนียมการสั่งซื้อ (Front End Fee) สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์เซ็ท อินเด็กซ์ ฟันด์ (SCBSET) ที่ซื้อขายผ่านแอพพลิเคชันใหม่ SCBAM Fund Click มูลค่าหน่วยลงทุนรวมไม่เกิน 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ กองทุนที่ซื้อขายผ่านช่องทางดิจิทัล ทั้งแอพฯ SCBAM Fund Click และ แอพฯ ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ เป็นการจัดสรรกองทุนชนิด Electronic หรือ e-class สำหรับกองทุนประเภท Passive ที่เน้นลงทุนให้ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง โดยกำหนดมูลค่าขั้นต่ำไว้เพียง 1 บาท และสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท นอกจากนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้บนแอพฯ SCB Easy ของธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ในปี 2562
“เราอยากจะเชิญชวนให้คนไทยมาลงทุนกองทุนหุ้น ไม่ได้เป็นการตัดราคา (ค่าธรรมเนียมการจัดการ) ในอุตสาหกรรม เพราะเราเลือกกองทุนที่ดีที่สุด ซึ่ง SCBSET เป็นกองทุนดัชนีกองทุนเดียวในประเทศไทยที่ลงทุนเลียนแบบ SET Index เพราะฉะนั้นไม่ได้ซ้ำซ้อนกับใคร ไม่เกี่ยวอะไรกับการต่อสู้กับคู่แข่ง” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า ลูกค้าเป้าหมาย คือ นักลงทุนรายย่อย รวมทั้งนักลงทุนหน้าใหม่ ซึ่งไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์
“ตอนนี้มีเป้าหมายเดียว คือ การเพิ่มลูกค้าที่ลงทุนต่อเนื่องกับ บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ได้ 1.5 ล้านราย ภายใน 3 ปี จากปัจจุบันที่มีลูกค้าลงทุนต่อเนื่องเพียง 4 แสนบัญชี ซึ่งจะลงทุนจำนวนเท่าไรก็ได้ เพราะเรื่องสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เป็นเรื่องรอง” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ลูกค้ารายย่อย หรือ ลูกค้าที่มีมูลค่าสินทรัพย์ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ มีอยู่ 5-6 แสนราย แต่มีมูลค่าสินทรัพย์ลงทุนเพียง 3-4 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อรายต่ำกว่า 1 แสนบาท ซึ่งความมั่งคั่งในระดับนี้ถือว่าน้อยเกินไป ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่มาก
“หาก บลจ.ไทยพาณิชย์ สามารถเชิญชวนให้คนไทยมาลงทุนในหุ้นผ่านกองทุน SCBSET ซึ่งเป็นกองทุนที่เข้าใจง่าย เพราะเลียนแบบดัชนี ใช้เงินลงทุนไม่มาก ไม่ต้องรอให้รวยก่อนแล้วมาลงทุน และเป็นบันไดขั้นแรกของการจัดสรรเงินลงทุน ซึ่งในอนาคตก็น่าจะทำให้ขยับไปลงทุนสินทรัพย์อื่นๆ ได้มากขึ้น” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวถึง AUM ในปี 2561 โดยคาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านบาท และในปี 2562 คาดว่าจะเติบโต 8-9% โดยจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นและสินทรัพย์อื่นเพิ่มเป็น 40% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 32% และลดสัดส่วนตราสารหนี้ลงเหลือ 60% จาก 68% ในปัจจุบัน