NUSA แจงไม่ได้รับแจ้งกก.ถูกฟ้องขายทรัพย์สิน ยันหาสภาพคล่องรองรับไถ่ถอนหุ้นกู้

HoonSmart.com>> “นุศาศิริ” (NUSA) แจงยังไม่ได้รับแจ้งคดีจากศาล กรณี “กรรมการ” บางรายถูกฟ้องขายทรัพย์สินบริษัท พร้อมแจงปัจจุบันขาดทุนสะสม 3,400 ล้านบาท เหตุขายทรัพย์สิน หวังเตรียมสภาพคล่องรองรับภาระหนี้หุ้นกู้ 2.5 พันล้านบาท รักษาอัตราส่วนหนี้สินค้าต่อทุนไม่ให้กระทบเงื่อนไขหุ้นกู้

บริษัท นุศาศิริ (NUSA) ชี้แจงข่าวกรรมการบริษัทบางรายถูกฟ้องร้องกรณีขายทรัพย์สินบริษัทฯ จากการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2566 ว่า บริษัทหรือกรรมการบริษัทที่ถูกอ้างถึงในข่าวยังไม่ได้รับแจ้งรายละเอียดแห่งคดี หรือนัดหมายสอบถามจากศาลยุติธรรมแต่อย่างใด โดยฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ขอชี้แจงข่าวกรรมการบริษัทบางรายถูกฟ้องร้องกรณีขายทรัพย์สินบริษัทฯ ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง

ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันดังกล่าวมีวาระพิจารณาลงมติอนุมัติหลักการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทฯ จริง โดยมีเหตุผลประกอบการพิจารณาในวาระดังกล่าว ดังนี้

ข้อ 1 ปัจจุบันอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าบัญชีของบริษัท อยู่ในระดับต่ำกว่า 40% ขณะที่ทรัพย์สินของบริษัทเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน (Tangible Asset) โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งปกติจะมีระดับราคาปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาว ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่ได้มีการประเมินมูลค่าทรัพย์สินในราคาตลาด เนื่องจากภาระภาษีจากการประเมินทรัพย์สินจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อเงื่อนไขหุ้นกู้ของบริษัทฯ

ข้อ 2 ปัจจุบันบริษัทฯ มีหุ้นกู้ที่จัดเป็นหนี้สินหมุนเวียนประมาณ 1,000 ล้านบาท และหุ้นกู้ระยะยาวประมาณ 1,500 ล้านบาท ฝ่ายบริหารซึ่งได้ติดตามภาวะตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด พบว่านักลงทุนในตลาดหุ้นกู้มีความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสาร ดังนั้นฝ่ายบริหารฯ จึงเห็นควรจัดเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับความไม่แน่นอน นอกจากนั้นการขายทรัพย์สินใดๆ โดยปราศจากการวางแผนล่วงหน้า จะทำให้มีอำนาจต่อรองเรื่องราคาและเงื่อนไขการขายอย่างจำกัด

ข้อ 3 มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2566 ประกอบไปด้วยหลักเกณฑ์พื้นฐาน คือ (1) ราคาจำหน่ายต้องไม่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (2) การจำหน่ายทรัพย์สินต้องดำเนินการโดยเปิดเผย มีการเปรียบเทียบราคาเพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด (3) มูลค่าการจำหน่ายทรัพย์สินมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการชำระหนี้ บริหารเงินทุนหมุนเวียน โดยจะไม่มีการนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายไปลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ หรือโครงการใหม่ (4) กรณีได้ผู้สนใจซื้อทรัพย์สิน ทางฝ่ายบริหารจะดำเนินการตามหลักเกณฑ์และกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ข้อ 4 ปัจจุบันบริษัทฯ มีขาดทุนสะสมประมาณ 3,400 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนสะสมบางจำนวนจะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีในปี 2567 การจำหน่ายทรัพย์สินในราคาที่สูงกว่ามูลค่าบัญชี จะทำให้บริษัทฯ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสูงสุดสำหรับรายละเอียดของทรัพย์สิน ที่ถูกระบุในวาระพิจารณาคณะกรรมการบริษัทข้างต้น มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 6 รายการ

ทั้งนี้ ภาระหนี้สินโดยตรงของสินทรัพย์รายการต่างๆ ข้างต้น มียอดรวมประมาณ 2,672 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 47% ของยอดรวมภาระหนี้สินของบริษัท ทั้งนี้ฝ่ายบริหารประเมินค่าเฉลี่ยของการจำหน่ายสินทรัพย์เพื่อจัดการภาระหนี้สินทั้ง 6 รายการ เมื่อเทียบกับราคาตลาดของทรัพย์สินข้างต้นอยู่ที่ระดับประมาณ 35% สะท้อนถึงสถานะการเงินของบริษัทฯ ที่มีความมั่นคง เพราะมียอดรวมทรัพย์สินที่มีตัวตนสูงกว่าภาระหนี้สินโดยรวมอย่างมาก โดยในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการเติบโตในยอดทรัพย์สินประมาณ 50% นอกจากนี้ฝ่ายบริหารสามารถบริหารจัดการหุ้นกู้ โดยไม่มีการผิดนัดชำระหนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

อ่านข่าว

“ประเดช” ยกทีมฟ้องกรรมการ NUSA ขอศาลสั่งห้ามขายทรัพย์สิน 1.1 หมื่นลบ.