GULF เซ็นขายไฟฟ้าให้กฟผ. 25 ปี โซลาร์ฟาร์ม 12 โครงการ 644.8 MW

HoonSmart.com>> “กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์” (GULF) เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 12 โครงการ ระยะเวลา 25 ปี กำลังผลิตรวม 644.8 เมกะวัตต์ ทยอย COD ปี 69-72 เดินตามเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่า 40% ภายในปี 78

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 กลุ่มบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ในสัดส่วน 100% ได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมกับ กฟผ. เพื่อพัฒนาและดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) จำนวน 5 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 259.6 เมกะวัตต์

โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 385.2 เมกะวัตต์รวมทั้งสิ้น 12 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวมทั้งสิ้น 644.8 เมกะวัตต์ โดยสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. มีระยะเวลา 25 ปี และโครงการดังกล่าวมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2569 – 2572

ทั้งนี้ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ.ไปแล้ว ทั้งสิ้น 24 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 1,294.1 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) จำนวน 13 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 652.9 เมกะวัตต์และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) จำนวน 11 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 641.2 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567 – 2572

โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) มีอัตราจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบ FiT ที่ 2.1679 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง และ 2.8331 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ตามลำดับ ตลอดอายุสัญญาซึ่งการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฯ จะช่วยลดความผันผวนจากราคาเชื้อเพลิง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนทั้งในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมให้ได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่ต่ำตลอดอายุสัญญา เนื่องจากโครงการฯ มีต้นทุนผลิตไฟฟ้าที่ต่ำกว่าราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในปัจจุบัน

การพัฒนาโครงการดังกล่าวข้างต้นเป็นไปตามแผนของบริษัทฯ ที่จะมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่า 40% ภายในปี 2578 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่มุ่งผลักดันการใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาดเพื่อเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนการขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแบบต่าง ๆ เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ