HoonSmart.com>ก.ล.ต. เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดรายนายศราวุธ สมวัฒนา กรณีซื้อหุ้นบริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ (NVD) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และให้ผู้กระทำผิดชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวม 1,790,110 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิด
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) ในปี2565 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่า นายศราวุธ (บุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลวงในของ NVD) ได้กระทำความผิดโดยซื้อหลักทรัพย์ที่ตนล่วงรู้ข้อมูลภายใน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2564 ของ NVD ที่มีกำไรสุทธิ 496.06 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน (YoY) และงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจาก NVD ได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการบันทึกบัญชีตามวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้ราคาประเมินที่ดินของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น โดยเป็นข้อมูลที่ส่งผลกระทบด้านบวกต่อราคาหุ้น NVD โดยนายศราวุธได้ซื้อหุ้น NVD ผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองในลักษณะที่ผิดไปจากปกติวิสัยของตน ก่อนที่ NVD จะเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17.40 น. ทำให้นายศราวุธได้รับผลประโยชน์จากมูลค่าหุ้น NVD ที่มีราคาเพิ่มขึ้นภายหลังจากที่ NVD ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
การกระทำของนายศราวุธเป็นความผิดฐานซื้อหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในตามมาตรา 242(1) ประกอบมาตรา 244(4) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ*
กับนายศราวุธ โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ (ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร) โดยให้นายศราวุธชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,790,110 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 12 เดือน
การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้นจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ : *มาตรา 317/1 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 ให้การกระทำความผิดอาญาตามบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดได้
อ่านรายละเอียด “การดำเนินมาตรการลงโทษทางแพ่ง (Civil Sanctions)” ได้ที่ https://www.sec.or.th/TH/Pages/LawandRegulations/CivilPenalty.aspx