HoonSmart.com >> 3 โบรกฯ สแกนหุ้น PIS เคาะราคาเหมาะสม 4.10-4.26 บ./หุ้น คาด ปี 67-69 กำไรเติบโตระดับ 23.6% ต่อปี หลัง IPO เพิ่มโอกาสคว้างานใหญ่ หนุนธุรกิจโตติดปีก
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท โปร อินไซด์ (PIS) โดยระบุว่า ฝ่ายวิจัยเลือกใช้วิธี P/E ในการประเมินมูลค่าเหมาะสม อิงกับ Peer บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET กลุ่ม ICT และ mai กลุ่ม TECH รวมถึงบริษัทที่เคยรับงานโครงการติดตั้งระบบเครือข่ายกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และงานโครงการบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ห่างไกล (USO) เราประเมินมูลค่าโดยใช้ PER Multiple ที่ 16.0 เท่า ซึ่งเป็นค่ากลางระหว่างค่าเฉลี่ยของ Peer เทียบกับ EPS Growth (CAGR) ปี 2568-2569 ที่ +18.16% ซึ่งสอดคล้องกับ ROAE ที่อยู่ในระดับสูง 24.74% ได้ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 4.26 บาท
ฝ่ายวิจัยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 106.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +2.7% YoY เติบโตไม่สูงเพราะความล่าช้าของการจัดทำงบประมาณภาครัฐประจำปี ทั้งนี้บริษัทจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 เป็น 143.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +34.7% YoY และปี 2569 เป็น 196.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +36.4% YoY หรือเติบโตด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี (CAGR ปี 2567-2569) +23.6% มีปัจจัยหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่กลับเป็นปกติและโอกาสในการเข้าประมูลงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มากขึ้น
คาด 1) การเติบโตของรายได้จากการขาย และให้บริการ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (ปี 2567-2569) +29.8% YoY ส่วนใหญ่เป็นงาน ICT Application Solution จัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่บนแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงกับระบบคลาวด์และ IoT และงานบำรุงรักษาระบบ (MA) ซึ่งมีทั้งงานต่อเนื่องจากลูกค้าเดิม และที่คาดว่าจะได้รับจากลูกค้าใหม่ 2) สามารถรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับสูง ตามสัดส่วนรายได้จากงานโครงการที่มีความซับซ้อน และรายได้จากการให้บริการที่มี margin ที่สูงกว่า รวมถึงการบริหารต้นทุนโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
การเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชน (IPO) ครั้งนี้ เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ส่งผลให้มีทุนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวนทั้งสิ้น 270 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินทุนที่ได้รับไปใช้ 1) เป็นหลักค้ำประกันกับสถาบันการเงิน เพื่อใช้ในการออกหนังสือค้ำประกันให้กับงานโครงการ 2) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานโครงการแก่ลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ/รัฐสาหกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ PIS ที่ 4.20 บาท อ้างอิง PER ปี 2567 ที่ 16 เท่า ในขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR 3 ปี 2567-2569 อยู่ที่ 21% หลังจากเพิ่มทุน IPO เพิ่มโอกาสรับงานโครงการภาครัฐ ซึ่งจะหนุนรายได้ในอนาคต ให้สอดคล้องกับสมมติฐานการเติบโตช่วงปี 2567-2569 เราคาดกำไรสุทธิของบริษัทฯมีอัตราการเติบโต CARG อยู่ที่ 21% ช่วงปี 2567-2569 อยู่ที่ 104 ล้านบาท ในปี 2567 , 143 ล้านบาทในปี 2568 และ 184 ล้านบาทในปี 2569 ปัจจัยหนุนมาจาก ICT Solutions ที่มูลค่า 2,102 ล้านบาท ซึ่งมีโอกาสรับรู้ตั้งแต่ Q4/2567 จนถึงปี 2569 โครงการเหล่านี้ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแอปพลิเคชันที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพด้านไอทีเป็นหลัก
“PIS มีจุดแข็งจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นฐานรายได้สำคัญโดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้คิดเป็น 99.94% ของรายได้รวม บริษัทฯให้บริการโซลูชันที่สอดคล้องกับนโยบาย Digital Thailand เช่น โครงการจัดหาระบบอ่านแผ่นป้ายทะเบียนอัตโนมัติครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ให้ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 4.10 บาท เราใช้ P/E เป้าหมาย 15.1x มี Premium 5% จากค่าเฉลี่ยกลุ่ม SI ที่ 14.4 เท่า เนื่องจากการมีฐานลูกค้าภาครัฐที่แข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ และรัฐอยู่ในช่วงลงทุนด้านนี้ ขณะที่การที่ PIS มี Recurring income จากงานบริการสูงกว่า 40% ของรายได้รวม ทำให้กำไรไม่จะผันผวน
ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 PIS มีงานในมือสูงถึง 2.1 พันล้านบาท กระจายรับรู้ใน 2-3 ปี ขณะที่แผนยุทธศาสตร์ 20 ปี และการยกระดับพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เชื่อจะทำให้งบประมาณ upgrade หน่วยงานรัฐสู่ดิจิทัลจะมีหนาแน่นในระยะยาว เราคาดกำไรสุทธิปี 2567-2569 ไว้ที่ 120 ล้านบาท , 146 ล้านบาท และ 171 ล้านบาท ขยายตัวเฉลี่ย +17.9% ต่อปี
PIS ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2555 โดยมุ่งเน้นกำรดำเนินธุรกิจจำหน่าย และวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ครอบคลุมการบริการให้การปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ดูแลบำรุงรักษาระบบงาน จัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร (ICT Solutions) นอกจากนี้ ยังได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเจ้าของผลิตภัณฑ์ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และผลิตภัณฑ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิดชั้นนำระดับโลก อย่าง Dahua Hikvision และ Huawei
สำหรับ PIS เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH) ในวันที่ 20 มกราคม 68 ราคาเสนอขายไอพีโออยู่ที่ 3 บาท/หุ้น เป็นระดับราคาที่กำหนดอยู่บน P/E ที่ 18.75 เท่า ถือว่าต่ำกว่า P/E กลุ่มในตลาด mai ที่อยู่ที่ 27.71 เท่า