HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 221 จุด หลังสหรัฐฯรายงานดัชนีผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.ต่ำกว่าคาด ลดความกังวลเฟดจะชะลอดอกเบี้ย ดัชนี S&P500 ขยับขึ้นเล็กน้อย บอนด์ยีลด์ปรับเพิ่มขึ้น แรงขายหุ้นเทคโนโลยีกดดัชนี Nasdaq ปิดลบ นักลงทุนจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) วันนี้ ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ปรับตัวลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average: DJIA) วันที่ 14 มกราคม 2568 ปิดที่ 42,518.28 จุด เพิ่มขึ้น 221.16 จุด หรือ +0.52% หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ต่ำกว่าคาด ช่วยลดความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอดอกเบี้ย แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดย S&P500 ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย และดัชนี Nasdaq ยังคงปิดในแดนลบ นักลงทุนขายหุ้นเทคโนโลยี จับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ด้านหุ้นเทคโนโลยียังขายต่อ ฉุดดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลง
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,842.91 จุด เพิ่มขึ้น 6.69 จุด, +0.11%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,044.39 จุด ลดลง 43.71 จุด, -0.23%
ตลาดหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากกลุ่มสาธารณูปโภค +1.3%, การเงิน +1.28% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 3.3% (คาดที่ 3.5%) เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.0% ในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8% หลังจากปรับตัวขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย. สะท้อนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย
ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง นำโดย Nvidia -1.1%, Meta Platform -2.3% และ Tesla -1.7%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ยังอยู่ระดับสูง 4.784% เมื่อคืนนี้ ซึ่งใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังคงวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นอีก
ด้านทีมเศรษฐกิจของทรัมป์เผยจะค่อยทยอยปรับขึ้นภาษีศุลกากรในอัตรา 2 – 5% ต่อเดือน จากเดิมคาดจะขึ้ยภาษีสินค้าทุกประเภท 10 – 20% และขึ้นภาษีสินค้าจีน 60% เพื่อลดความเสี่ยงเงินเฟ้อสหรัฐอาจสูงขึ้น
ค่ำวันนี้ติดตามรายงานดัชนีเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) เดือนธ.ค. เพื่อประเมินอัตราดอกเบี้ยของเฟดและการเริ่มรายงานกำไร Q4/67 กลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น Citi Group, Goldman Sachs, JP Morgan
ด้านตลาดยุโรปปิดร่วงวานนี้ปิดปรับตัวลดลง หลังผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปีและอิตาลีปรับสูงขึ้น โดยผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.62% สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ค. 67 ขณะที่ CPI ยูโรโซน ธ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.4% และพ.ย. 2.2% YoY ราคาอาหารและพลังงานยังมีแนวโน้มปรับสูง ส่งผลให้ ECB อาจชะลอการลดดอกเบี้ยในการประชุม ม.ค., มี.ค. นี้
ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูล CPI เดือนธ.ค.ของอังกฤษ,ฝรั่งเศสและสเปน
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 508.28 จุด ลดลง 0.40 จุด, -0.08%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,201.54 จุด ลดลง 22.65 จุด, -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,423.67 จุด เพิ่มขึ้น 15.03 จุด, 0.20%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,271.33 จุด เพิ่มขึ้น 138.48 จุด, 0.69%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ -1.67% ปิดที่ 77.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ -1.35% ปิดที่ 79.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลัง EIA คาดภาวะตลาดน้ำมันใน 2 ปีข้างหน้าอยู่ภาวะอุปทานมากกว่าอุปสงค์ โดยคาดราคาน้ำมันดิบ Brent ปีนี้ที่ 74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและปีหน้าคาดที่ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล