HoonSmart.com >> คลัง-ธปท.-ก.ล.ต.ถกทบทวน Program Trading สร้างความไม่ทัดเทียมในตลาดหุ้น “กฤษฎา” รมช.คลัง แย้มไม่ควรมี Robot Trade
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มีการหารือกับเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อศึกษา และทบทวน การใช้ Program Trading ในการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย หลังจากมีการเสนอให้ยกเลิก Program Trading ซึ่งเป็นโปรแกรมส่งคำสั่งซื้อขายที่มีความถี่สูง ถูกตั้งข้อสังเกตว่า สร้างความไม่เท่าเทียมในการเทรด เป็นสาเหตุให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
“ตอนนี้ไม่แน่ใจว่า มีการใช้ Robot Trade หรือไม่ แต่ยอมรับว่า ไม่ควรมี เพราะกระทบต่อหุ้นไทย ส่วนสาเหตุที่หุ้นตก สวนทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับขึ้น มองว่า เป็นเรื่องเฉพาะตลาดทุนหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ปลัดคลังไปหารือกับ ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์ฯ แบงก์ชาติแล้ว และให้ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งมาตรการที่ดูแลพวกนี้ เป็นมาตรการเร่งด่วนต้องทำทันที” นายกฤษฎา กล่าว
พร้อมระบุว่า หากดูพื้นฐานเศรษฐกิจไทย อยู่ระดับที่มีเสถียรภาพดีมาก เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ของสถาบันการเงินไทยสูงถึง 19% สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้ที่ 8.5% ขณะที่ดุลการค้าก็ยังดี และมีเงินคงคลัง 5 แสนกว่าล้าน ถือว่าพื้นฐานแข็งแกร่ง
สำหรับพอร์ตการถือหุ้นของกระทรวงการคลัง ยังเป็นไปตามภาวะตลาด ซึ่งกระทรวงการคลังไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการเก็งกำไร แต่เข้าไปถือหุ้นเพื่อสนันสนุนกิจการต่าง ๆ ของภาครัฐในช่วงที่มีปัญหา
รมช.คลัง กล่าวอีกว่า กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ระดับ 5.25-5.50% ต่อปีนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ขณะที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็ได้คงดอกเบี้ยนโยบายตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนแล้ว ทำให้ทิศทางดอกเบี้ยในตลาดไม่ได้ปรับขึ้น รวมทั้งเป็นผลดีต่อต้นทุนการกู้ยืมเงินของผู้ประกอบธุรกิจเอสเอ็มอี