PIS ปลื้มขายเกลี้ยงหุ้น IPO 140 ล้านหุ้น พร้อมเทรด 20 ม.ค.นี้

HoonSmart.com>>”โปร อินไซด์” (PIS) ปิดจ๊อบขายหุ้น IPO 140 ล้านหุ้น นักลงทุนให้ความสนใจล้นหลาม พร้อมลงสนามเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) 20 ม.ค. นี้ จุดเด่นรายได้แข็งแกร่งจากภาครัฐ ตุน Backlog แน่น 2.1 พันล้านบาท ลุ้นคว้างานใหม่เพียบ โชลูชั่นตอบโจทย์ยุคดิจิทัล

​ดร.วรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โปร อินไซด์ (PIS) เปิดเผยว่า การเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 140 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท ระหว่างวันที่ 9-10 และ 13 มกราคม 2568 นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 11–12 มกราคม 2568 โดยจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ของบริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ หุ้น PIS ได้รับความสนใจจากนักลงทุนซื้อหุ้นจำนวนมาก ภายหลังนำเสนอข้อมูล (Roadshow) ให้นักลงทุน เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานที่มีศักยภาพเติบโตสูง ในฐานะผู้ให้บริการ ICT Solutions ครบวงจร พร้อมพันธมิตรระดับโลก ตอบโจทย์ยุคดิจิทัล

นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน PIS กล่าวว่า การตั้งราคาไอพีโอดังกล่าว ถือเป็นการกำหนดราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ และยังมีค่า P/E Ratio หรือราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ P/E Ratio ในอุตสาหกรรมเดียวกัน และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 20 มกราคม 2568 ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยี (TECH)

“การเข้าระดมทุนของ PIS ในครั้งนี้ ทำให้ฐานเงินทุนมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานภาครัฐที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น หนุนการเติบโตในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด”

นางสาวเบญญาภา เฉลิมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PIS กล่าวว่า บริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต และการระดมทุนในครั้งนี้ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของ PIS ด้วยวิสัยทัศน์ เราจะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ PIS มีจุดแข็งจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเป็นฐานรายได้สำคัญ โดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มนี้คิดเป็น 99.94% ของรายได้รวม อีกทั้งยังให้บริการโซลูชันที่สอดคล้องกับนโยบาย Digital Thailand เช่น โครงการจัดหาระบบอ่านแผ่นป้ายทะเบียนอัตโนมัติครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 2.1 พันล้านบาท และอยู่ระหว่างยื่นเข้าประมูลโครงการภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อเพิ่มงานในมือ หนุนผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้รวม 988.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.38% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 67.88 ล้านบาท