HoonSmart.com>>“ดร.ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกฯ ให้ 5 การบ้านตลาดหลักทรัพย์ฯ ฟื้นความเชื่อมั่น เร่งก.ล.ต.เปิดเทรดคริปโต จี้กระทรวงการคลัง แบงก์ชาติ เพิ่มสภาพคล่อง ดึงเงินใต้ดินเข้าระบบ ย้ำไทยต้องวินวินจากการลงทุนของต่างชาติ เดินหน้าแผนถมทะเลป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพ ลั่นภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบัน จีดีพีไทยจะไปแตะ 5% ในปี’70
“ดร.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเวที “Dinner Talk CHAT with TONY: BULL RALLY of THAI CAPITAL MARKET” ช่วยยกระดับเศรษฐกิจไทย และพาตลาดหุ้นไทยฝ่าวิกฤต จัดโดยนสพ.ข่าวหุ้นธุรกิจ ว่า
ตลท.ต้องแก้ 5 ปัญหาฟื้นเชื่อมั่น ประกอบด้วย
1.ความโปร่งใสของบริษัทจดทะเบียน ต้องดูแลไม่ให้ใช้เงินผิดประเภท ทำบัญชีให้ถูกต้อง บริหารงานถูกต้อง เพื่อไม่ให้มากระทบกับตลาด
2.โรบอทเทรดดิ้ง โดยเฉพาะ HFT High Frequency Trading ซึ่งความจริงไม่มีประโยชน์ต่อใคร แต่ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยชอบเนื่องจากได้มูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น คิดว่าไม่ควรให้มีแบบนี้ ถ้าจะมีต้องมีกติกาที่เท่าเทียม เช่น ความเร็วในการเชื่อมต่อต้องเท่ากัน ซึ่งต้องใช้เอไอเข้ามาทำการตรวจสอบ
3.การจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นล่าช้า ทำให้นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อถือ ล่าสุดทางกระทรวงการคลังได้มีการเพิ่มอำนาจให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สามารถจัดการได้แบบสากล โดยไม่ต้องรอขั้นตอนทางกฏหมายที่อาจจะทำให้เกิดการวิ่งเต้น
4.บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่เป็นธุรกิจดั้งเดิม ไม่ค่อยมีบริษัทใหม่ๆ เข้ามา ปัจจุบันรัฐบาลได้พูดคุยกับทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ให้ชวนบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ล่าสุดรัฐบาลได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ มูลค่าการลงทุน 5 แสนล้านบาท จะดึงบริษัทเหล่านี้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น
5.บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่มี P/E ต่ำ และมีราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (PVB) จึงอยากให้ Treasury Stock หรือการซื้อหุ้นตัวเองกลับคืน และทำให้ราคาหุ้นกลับมาใกล้เคียงกับมูลค่าทางบัญชี ซึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ฯสามารถไปดูตัวอย่าง ในหลายๆประเทศเช่นญี่ปุ่นที่เขาทำให้ราคาหุ้น ขึ้นมาสมเหตุสมผลกับราคา ทางบัญชี
เร่งก.ล.ต.เปิดเทรดคริปโตฯ คาร์บอนเครดิต
ก.ล.ต. ต้องมี Stablecoin ที่มีสินทรัพย์รองรับ อาจเริ่มจากพันธบัตรที่ปัจจุบันมีการขายออกไปแล้วคนก็ซื้อไปเก็บแล้วก็กินดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียว ก็นำออกมา ทำเป็น stablecoin ขายเป็นล็อตเล็กๆ เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย โดยคนถือก็ยังได้ดอกเบี้ย
รสมถึง การออกคริปโต จากสินทรัพย์จริงที่ไม่มีสภาพคล่อง เช่นบ้าน คอนโด ซึ่งสามารถทำได้เพราะปัจจุบันก็มี Virtual Bank หรือธนาคารเสมือนจริงที่กำลังจะเกิดออกมารองรับ
ในระยะสั้นจะช่วยให้มีเงินหมุนเวียนเข้าระบบเศรษฐกิจ จากปัจจุบันที่เม็ดเงินถูกพันธบัตรดูดออกไป
ล่าสุดรัฐบาลกำลังทำโครงการ Sandbox เรื่องการรับชำระราคา เป็น Bitcoin ที่ภูเก็ต
รวมถึงการเปิดศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งจะช่วยให้สามารถขายได้ในราคาที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันราคาคาร์บอนเครดิตไทย อยู่ที่ 7 เหรียญสหรัฐต่อตัน ขณะที่ สิงคโปร์ อยู่ที่ 14 เหรียญสหรัฐต่อตัน และที่ยุโรป อยู่ที่ 35 เหรียญสหรัฐต่อตัน
ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาประเทศไทยให้ไปสู่ Financial Center ศูนย์กลางทางการเงิน) ซึ่ง กระทรวงการคลัง กำลังดูโมเดล อยู่ว่าจะใช้รูปแบบใด ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการศึกษาโมเดลของดูไบ แต่ก็มีความอ่อนไป ในขณะที่โมเดลของสิงคโปร์ก็เข้มข้นมากไปหน่อย ก็ต้องพยายามหาโมเดลที่เป็นกลางๆให้เหมาะสมกับประเทศไทย
ทั้งนี้ ตลาดทุนต้องทำให้เกิดความโปร่งใสให้ได้เพราะความโปร่งใส จะทำให้นักลงทุนรู้สึกว่ามีความยุติธรรม ถูกได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อระบบการกำกับดูแลดีแล้วบริษัทจดทะเบียนมีคุณภาพที่ดีแล้ว จะ จะดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาเองเพราะว่าเงินจะไหลไปทุกที่ที่สามารถทำเงินได้
จี้คลัง-แบงก์ชาติเพิ่มปริมาณเงินเข้าระบบ
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า การเพิ่มปริมาณเงินเข้าระบบ เห็นว่าควรจะมีการ รีไซเคิล กองทุน LTF เพื่อรักษาเงินลงทุนให้อยู่ในระบบ จากปัจจุบันที่มีกองทุน ThaiESG ส่วนใหญ่ 80% ลงทุนในพันธบัตร ทำให้พันธบัตรดูดปริมาณเงินออกไป โดยมองว่าการที่จะมีกำไรนั้นขึ้นอยู่กับความเสี่ยงถ้าจะไม่เสี่ยงเลย เก็บเงินไว้อย่างเดียวเงินจะถูกหยุดใช้ และหายออกไปจากระบบตลาดทุน
รวมถึงการดู เรื่องภาษี Global minimum tax ให้เก็บ 15% ไปก่อนแล้วหามาตรการอื่นๆ ช่วยในภายหลัง ศึกษาการลดภาษีนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา และช่วยกลุ่มผู้มีรายได้น้อยโดยการใช้ Negative income tax
7 สิ่งที่จะดันจีดีพีแตะ 5% ปี’70
สำหรับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน 2 ปีของรัฐบาลชุดนี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 5% ใน ปี 2570 ประกอบด้วย
1. การสนับสนุนธุรกิจใหม่ โดย จะทำ Sandbox ที่เป็นนวัตกรรม ในส่วนที่กฎหมายยังไม่มีออกมารองรับหรือว่าตามไม่ทัน เพื่อให้เกิดการทดลอง เช่น การใช้ Stem Cell ทั้งจากสายสะดือทารกเด็ก และจากตัวเราเอง เพื่อนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพ
2. ส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับธุรกิจใหม่ๆ เช่น Data Center ซึ่งทางกลุ่มยูเออี เปรียบเทียบ Data Center คือน้ำมัน ส่วน AI เปรียบได้กับเป็นโรงกลั่น ฉะนั้นเมื่อตั้ง Data Center แล้ว จะต้องมี AI Hub ซึ่งปัจจุบันมูลค่าการลงทุน อยู่ราวๆ 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ
3.ลดค่าไฟฟ้าให้เหลือหน่วยละ 3.70 บาท จากปัจจุบัน 4.15 บาทต่อหน่วย ซึ่งดูแล้วสามารถทำได้ เพราะมันมีค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลืองอยู่แล้วนำค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปบวกกับประชาชน ก็ใช้วิธีตัดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองนั้นออกไปเช่น การปิดโรงไฟฟ้าที่ต้นทุนสูง, การลดสวัสดิการค่าไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานท้องถิ่น, และการลดค่าผ่านท่อก๊าซ
ค่าไฟของประเทศ ถือเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งในการดังนักลงทุนเข้าประเทศ โดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์ และเอไอฮับ ที่ต้องใช้ไฟมาก ซึ่งการที่เข้ามาลงทุนในไทยเพราะว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าของเราเหลือพอ โดยเอไอฮับ 1 ใช้ไฟฟ้ากว่า 1 กิกะวัตต์ ลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท เท่ากับครึ่งหนึ่งของปีงบประมาณ ก็จะเกี่ยวข้องกับค่าไฟที่จะต้องไม่แพง
4. ในการดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุน ที่ให้สิทธิ์ส่งเสริม พิเศษจาก BOI นั้นจะเน้นดูว่าประเทศไทยได้อะไร และเสียอะไร โดยต้องวินๆ กันทั้งสองฝ่าย อุตสาหกรรมของไทยต้องไปรอด
รวมถึงหาวิธีตั้งรับสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดไทย การทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่รอดด้วย เพราะ 80% ของระบบเศรษฐกิจไทยเป็นเอสเอ็มอี
5.ธุรกิจซอฟต์พาวเวอร์ ต้องมีการยกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพื่อให้คนไทย สร้างรายได้ มากกว่ารายได้ขั้นต่ำ เช่น ทักษะการเป็นด้านอาหาร ทักษะด้านกีฬา รวมถึงการเพิ่มทักษะ การขายสินค้าประจำจังหวัด
6.สร้างความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าออกประเทศ สร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะต้องทำการแข่งขันกับธุรกิจท่องเที่ยวจีน ที่มักจะมาแบบครบวงจรและต้องติดตามให้จีนทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส เพราะเกิดเหตุจีนหลอกนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาทำให้เกิดความเสียหาย คนที่เสียชื่อคือประเทศไทย ต้องเพิ่มความสะอาด ในพื้นที่ท่องเที่ยวให้มากขึ้น เช่น ห้องน้ำสาธารณะ
7. สร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตามแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่นการสร้างสนามบินใหม่การขยายถนนที่ภูเก็ตและที่เชียงใหม่
การทำ Man-made ด้านการท่องเที่ยง แหล่งใหม่ๆ ในต่างจังหวัด ให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวออกไปจากกรุงเทพ
การหาวิธีจูงใจให้บริษัทในกรุงเทพฯไปตั้งสำนักงานใหญ่ในต่างจังหวัด รวมถึงการ เป็นฮับสนามบินของสายการบินโลว์คอสในต่างจังหวัด
ทั้งนี้เพื่อให้เงินไหลเวียนอยู่ในต่างจังหวัด เป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กับต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่ร้านค้าใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อประชาชนมีการใช้จ่าย เงินก็จะถูกส่งกลับเข้ามาที่กรุงเทพฯ ทำให้ไม่มีเงินไหลเวียนในจังหวัดนั้นๆ
“นี่คือสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้จะทำในช่วง 2 ปีที่เหลืออยู่ ปีนี้เศรษฐกิจไทยอาจจะโตแค่ 3% แต่ปี 2569 จะต้องโต 4% และโต 5% ในปี 2570”
แผนระยะยาวที่จะทำต่อไปครอบคลุมการเงิน เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย
1.ดึงเงินพนันออนไลน์เข้าระบบ
ดร.ทักษิณ กล่าวว่า ล่าสุด ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร โดย กระทรวงดิจิทัลฯ หรือ ดีอี อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อทำให้ พนันออนไลน์ ที่มีมูลค่า 3 ล้านล้านบาทต่อปี ขึ้นมาบนดิน เข้าสู่ระบบ มีการเล่นได้เสียกันเฉลี่ยปีละ 5 แสนล้านบาทต่อปี ถ้าสามารถเก็บภาษีได้ 20% ก็จะเป็นเงิน ประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยจะมีการควบคุมอายุผู้เล่น ไม่ให้ต่ำกว่า 20 ปี โดยใช้ Digital ID ในการตรวจสอบ และติดตามดูว่าใครที่มีพฤติกรรมการติดพนัน ก็จะมีกระบวนการนำไปบำบัดทางจิต
ทั้งนี้จากการติดตาม เงินในระบบในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่เศรษฐกิจไม่ดีขึ้น แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ จะมีการพิมพ์ธนบัตรออกมาอย่างต่อเนื่องแต่ว่าเงินก็หายไปจากระบบน่าจะเกิดจากการหายไปในธุรกิจใต้ดินทำให้เงินไม่ทำงาน ต้องดึงเงินธุรกิจใต้ดิน เข้าระบบโดยการเก็บภาษี แต่ต้องไม่ใช่เงินที่เกิดจากการฟอกเงิน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒน์ จะต้องคุยกันในเรื่องการวางแผน ระบบการเงิน และเศรษฐกิจ เพื่อให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ แต่ทุกวันนี้แบงก์ชาติไม่คุยกับใครเลยน่าจะอยู่กันคนละประเทศ
2. การนำพื้นที่ของการรถไฟมาสร้างบ้านให้ผู้มีรายได้น้อย
3.การถมทะเลเพื่อป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ การขุดลอกคลอง และแม่น้ำ โดยให้เอกชนสามารถนำดินไปใช้ประโยชน์ได้
4. การแก้ปัญหา PM 2.5 มีบทลงโทษเกษตรกร ที่เผาฟางหรือใบอ้อยรวมถึงซากพืชเกษตรต่างๆ ฉันไม่รับซื้อสินค้าทางการเกษตร
5. ให้ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ให้กับเยาวชน
หุ้นบริษัทไหนได้ประโยชน์
บล.หยวนต้า ระบุว่า จากธุรกิจใหม่ที่รัฐบาลจะสนับสนุน คือ Data Center, AI, Stem cell, และส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตยา, ส่วน Digital Asset จะเริ่ม Sandbox ที่ภูเก็ตโดยให้สามารถใช้ Bitcoin ชำระค่าสินค้าได้ คาดหนุนหุ้น GULF, INTUCH, LTS, INSET, SYMC, MEDEZE และ TMAN
ส่วนโครงการ Entertainment Complex คาดว่าจะมีเงินลงทุนราว 5 แสนลบ. กฎหมายเรื่องพนันออนไลน์ จะทำให้ธุรกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน และควบคุมการเล่นได้ คาดว่าจะเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมได้เพิ่มขึ้นอีกราวปีละ 1.3 แสนลบ. เป็นบวกต่อ VGI, BTS และ MBK
กรณี รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยการตั้ง Infrastructure Fund จะเริ่มได้ในเดือน ต.ค. เป็นบวกต่อ BTS, BEM
ส่วนการคาดหวัง GDP ปี 2568 โต 3% ปี 2569 โต 4% และปี 2570 โต 5% การเติบโตแบบขั้นบันไดที่สูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะหนุนให้ Flow กลับมาไหลเข้า และมีโอกาสหนุนให้ SET INDEX กลับมา Outperform ได้