“คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนีฟื้นตัวแนวต้าน 1,370-1,375 จุด แนะ TIDLOR-TU

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัว แนวต้าน 1,370 – 1,375 จุด หลังเฟดส่งสัญญาณยุติขึ้นดอกเบี้ย และเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า หนุนนักลงทุนมีสถานะ Short ต้องปิดความเสี่ยง แนะทยอยซื้อ PTT, BEM, DMT, EPG อยู่ใน SETESG , เก็งกำไร DELTA, SAWAD, MTC, TIDLOR, GULF, GPSC ปัจจัยหนุนวงจรขาขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐยุติ พร้อมเสิร์ฟหุ้นวันนี้ TIDLOR-TU

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังเฟดส่งสัญญาณยุติการขึ้นดอกเบี้ย และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลให้นักลงทุนมีสถานะ Short ต้องปิดความเสี่ยง วางแนวรับดัชนีที่ 1,350 จุด แนวต้าน 1,370 – 1,375 จุด แนะนำทยอยซื้อ PTT, BEM, DMT, EPG เป็นกลุ่มอยู่ใน SETESG , เก็งกำไร DELTA, SAWAD, MTC, TIDLOR, GULF, GPSC ปัจจัยหนุนจากวงจรขาขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐได้ยุติแล้ว

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TIDLOR (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 27.25 บาท) แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q66 เติบโตได้ YoY แม้ว่า NIM จะปรับลดลงต่อจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามจะได้รับการชดเชยจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อรวม และรายได้เบี้ยประกันวินาศภัย แต่ QoQ อาจลดลงจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น โดยบริษัทคงเป้าหมาย loan growth ปี 66 ที่ +10-20%YoY credit cost ที่ 3.00-3.35% NPL ไม่เกิน 1.65%

ส่วนแนวโน้มปี 67 คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องจากความต้องการสินเชื่อและการตั้งสำรองที่ลดลง โดยคุณภาพสินเชื่ออยู่ในเกณฑ์ที่ดีเทียบกกับคู่แข่งจากทั้ง Coverage ratio และ NPL นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้ม bond yield ที่ผ่านจุดสูงสุด รวมถึงได้ประโยชน์จากมาตรการคุมหนี้นอกระบบและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 3.86 พันล้านบาท +6%YoY และ 4.63 พันล้านบาท +20%YoY ตามลำดับ

หุ้น TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมายปี67 17.80 บาท) กำไรสุทธิงวด 3Q66 อยู่ที่ 1,206 ล้านบาท -52.34%YoY, +17.23%QoQ เห็นการฟื้นตัวได้ต่อเนื่องชัดเจน QoQ ได้แรงหนุนจาก 1.ยอดขายธุรกิจ PetcareและValue-added +19%QoQ และ 2.ต้นทุนราคาปลาทูน่าที่อ่อนตัวลงจากระดับ 2,000 usd/ton สำหรับการดำเนินงานในช่วงถัดไปเราคาดหวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ต่อในช่วง 4Q66 โดยนอกจากประเด็นการกลับมาสั่งซื้อสินค้าของลูกค้าแล้ว(เดิม inventory คู่ค้าอยู่ในระดับสูง)

ปัจจัยหนุนการฟื้นตัวยังจะมาจาก 1.ต้นทุนปลาทูน่าที่เห็นการอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่องโดยราคา skip jack tuna ในเดือน 11 อยู่ที่ 1,500 usd/ton และ 2.การเปิดตลาดใหม่ๆของธุรกิจ Petcare โดยเฉพาะในจีน ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิปี 66 และ ปี67 ของ TU ที่ 4,588 ล้านบาท (-35.72%YoY) และ 6,318 ล้านบาท (+37.70%YoY)