HoonSmart.com>>ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับลงสู่เกณฑ์ “ซบเซา” สถาบันถอดใจหนักกว่าเพื่อน คาดหวังเศรษฐกิจฟื้น เงินทุนไหลเข้า แนะจับตา 7 ปัจจัยจากในและต่างประเทศ หมวดพาณิชย์น่าสนใจมากที่สุด ส่วนหุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่น่าสนใจมากที่สุด วันนี้ DELTA ดิ่งลงแรง 8 บาทหรือ -5.11% ปิดที่ 148.50 บาท ฉุดดัชนีร่วง 1% ปิดที่ 1,354.34 จุด
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยผลสำรวจในเดือนธ.ค. ที่ผ่านมา ( 18-31 ธ.ค. 2567) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับลงมาอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ที่ระดับ 78.52 นักลงทุนมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ การนำเข้าส่งออกสินค้า และสถานการณ์เงินเฟ้อ
ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” (ช่วงค่าดัชนี 40-79) ที่ระดับ 78.52 โดยกลุ่มนักลงทุนบุคคล อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ในขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ กลุ่มนักลงทุนสถาบัน และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา”
หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดพาณิชย์ (COMM) หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (ETRON)
สำหรับ ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
“ผลสำรวจ ณ เดือนธันวาคม 2567 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่า ความเชื่อมั่นกลุ่มนักลงทุนทุกกลุ่มปรับลดลง โดยกลุ่มนักลงทุนบุคคล ปรับลด 15.6% อยู่ที่ระดับ 85.71 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลดลง 22.2% อยู่ที่ระดับ 70.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลดลง 34.2% อยู่ที่ระดับ 77.78 และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศปรับลดลง 43.7% อยู่ที่ระดับ 75.00″นายกอบศักดิ์ กล่าว
นายกอบศักดิ์ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 SET Index ปรับตัวในกรอบแคบเนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ในการกระตุ้นตลาด มูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์ในเดือนนี้ค่อนข้างเบาบาง และยังมีแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนเล็กน้อยจากการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปี 2568 และเม็ดเงินไหลเข้าจากการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีในช่วงสุดท้ายของปี โดย SET Index ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2567 ปิดที่ 1,400.21 ปรับตัวลดลง 1.9% จากเดือนก่อนหน้า ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ 40,704 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 10,552 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิกว่า 146,906 ล้านบาท
ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ 1.การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump ในวันที่ 20 มกราคม 2568 โดยเฉพาะการประกาศนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินการทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ 2.รวมทั้งความยืดเยื้อของสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และ3.แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน
ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ 1.ผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยจากมาตรการกีดกันการค้าของ Trump 2.0 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังงบประมาณสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาครัฐและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 2.แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย 3.การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และ 4.การประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน
ด้านตลาดหุ้นไทยวันที่ 13 ม.ค. 2568 ปรับตัวลงแรงตามตลาดต่างประเทศ และปัจจัยลบภายในประเทศ กดดันดัชนีลงไปต่ำสุดแตะ 1,349.02 จุด เด้งขึ้นสูงสุดที่ 1,362.14 จุด ก่อนปิดที่ 1,354.34 จุด ทรุด 13.65 จุดหรือ -1% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 42,944.14 ล้านบาท แรงขายนำโดยหุ้น DELTA ปิดที่ 148.50 บาท ร่วงลง 8 บาทหรือ -5.11% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 3,315.10 ล้านบาท สูงที่สุดของวัน