HoonSmart.com>> หุ้น”อาร์เอส”(RS) ดิ่ง 4 ฟลอร์ ราคาถลาลงเหลือ 1.50 บาท จากที่ยืนสูงกว่า 5 บาทมานาน ผู้ถือหุ้นทุกรายเสียหาย เผยมีรายชื่อบล.หลายรายติดอันดับหุ้นใหญ่ ทั้งเพื่อทำธุรกรรมบล็อกเทรด-ให้มาร์จิ้น-หาเงินกู้นอกระบบ หลักประกันไม่พอแน่ ล่าสุด “เฮียฮ้อ” ถูกฟอร์ซเซลปิดสถานะ SSF 2,968 สัญญา (2.96 ล้านหุ้น) ผ่านบล.โกลเบล็ก เหลืออีก 15,988 สัญญา คาดในระบบยังมีค้างอีกกว่า 8 หมื่นสัญญา ด้านการแก้เกณฑ์มาร์จิ้น ทางก.ล.ต.นัดคุยโบรกฯจันทร์นี้
หุ้นบริษัทอาร์เอส(RS) ซื้อขายที่ราคาสูงกว่า 5 บาทต่อหุ้นมานาน มาร์เก็ตแคปสูงกว่า 1หมื่นล้านบาท แต่วันที่ 10 ม.ค.2568 เหลือเพียง 3,273.33 ล้านบาท ราคาที่ดิ่งฟลอร์ลงมา 4 วันติด ก่อนปิดที่ 1.50 บาท ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นทุกราย จากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ มีชื่อบริษัทหลักทรัพย์(บล.)หลายรายร่วมถือหุ้น เพื่อทำธุรกรรมต่างๆนานา กลุ่ม”ไพรัชเวทย์-เรมกานนท์” โดยบล.ดาโอ (ประเทศไทย) ถือรวมกันประมาณ 188 ล้านหุ้น หรือราว 8.62% ของทุนเรียกชำระแล้ว ส่วนของนาย ชำนิ จันทร์ฉาย โดยบล.ดาโอ ฯ ถือ 28.58 ล้านหุ้น หรือ 1.31%
นอกจากนี้ยังมีบล.ธนชาต เพื่อทำธุรกรรมบล็อกเทรด ถือหุ้น RS 39.88 ล้านหุ้น หรือ1.83% บล. เกียรตินาคินภัทรและบล.กสิกรไทย ถือรายละ 18 ล้านหุ้นหรือ 0.83%
ทำไมบล.หลายแห่งถึงเข้ามาถือหุ้น RS แทนลูกค้าจำนวนมาก
เนื่องจาก นาย สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือ เฮียฮ้อ เจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่ได้นำหุ้นไปวางเป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) รวมถึงนำเงินไปลงทุนบล็อกเทรดและกู้เงินนอกระบบจากบุคคล โดยทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เมื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงถูกโบรกเกอร์จับขายหุ้น ทำให้ราคาหุ้นดิ่งฟลอร์ กระทบหลักประกันไม่เพียงพอ จะต้องไล่บี้ให้นำเงินมาชำระหนี้เพิ่ม หากไม่ได้คืน บล.ก็จะต้องตั้งสำรองและได้รับความเสียหาย
ท้งนี้เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2568 นายสุรชัยรายงานก.ล.ต.ว่าได้ขายหรือปิดสถานะ Block trade (SSF) อ้างอิงอาร์เอส จำนวน 2,968 สัญญา (2.96 ล้านหุ้น) ราคาเฉลี่ย 1.82 บาท คงเหลือ 15,988 สัญญา ทำรายการผ่านบล.โกลเบล็ก ทั้งนี้ราคาหุ้น RS ปิดฟลอร์วันที่สามที่ระดับ 1.81 บาท
ในวันเดียวกัน นาย สุรชัย ได้ขายหุ้นบริษัทอาร์เอสเอ็กซ์วายแซด (RSXYZ หรือ GIFT) จำนวน 14.7 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.87 บาท เป็นเงินประมาณ 12.8 ล้านบาท คงเหลือจำนวน 272,459,832 หุ้น ทำรายการผ่านบล.ธนชาต
ทางด้านสำนักงานก.ล.ต.ที่อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้มาร์จิ้น ทางก.ล.ต.ได้นัดหารือกับบริษัทหลักทรัพย์ในวันจันทร์ที่ 13 ม.ค.2568 นี้
สำหรับหลักการที่จะปรับปรุงใหม่มีหลายรายการ อาทิ อัตรามาร์จิ้นเริ่มต้น (Initial Margin : IM) 100% หุ้น IPO ในช่วง 14 วันแรกของการเข้าซื้อขาย ห้ามปล่อยมาร์จิ้น ลูกค้าต้องใช้เงินสดเต็มจำนวน ส่วนวันที่ 15-60 วัน กำหนด IM ไม่ต่ำกว่า 60% จากนั้นจะคิด IM ปกติตั้งแต่วันที่ 60 ขึ้นไป
ส่วนการกำหนดยอดหนี้คงค้างให้ปรับลดยอดหนี้คงค้างลูกค้าทุกรายรวมกันจาก 5 เท่าเหลือ 4 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้นหรือ equity ของ บล. แก่ลูกค้าที่ไม่ใช่สถาบัน หากเกินกว่าที่กำหนดให้หักค่าความเสี่ยง (haircut ) เฉพาะในส่วนที่เกินกว่า equity ในอัตราขั้นบันได เพื่อเป็นลดการกระจุกตัวของลูกหนี้ เช่นคงค้างที่กำหนด มากกว่า 3 เท่า ของ equity ให้ haircut 15% ของมูลหนี้คงค้างส่วนเกิน หากมากกว่า 3.5 เท่า ของ equity ให้ haircut 20% และหากมากกว่า 4 เท่า ของ equity ติดต่อกันเกิน 3 เดือน ให้ haircut 100% ของมูลหนี้คงค้างส่วนเกิน
อ่านประกอบ
จุก! ‘เฮียฮ้อ’ ปิดบล็อก RS 2,968 สัญญา ราคาแค่ 1.82 บาท-ฟอร์ซเซล RSXYZ 14.7ล้านหุ้น
———————————————————————————————————————————————————–