โดย…สาธิต บวรสันติสุทธิ์, CFP นักวางแผนการเงิน
โครงการ Easy E-Receipt คือ โครงการที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค และการใช้บริการต่าง ๆ และเป็นการชักจูงให้ผู้ประกอบการต่างๆที่อยู่นอกระบบภาษีเข้ามาอยู่ในระบบภาษีมากขึ้น และเน้นการเปลี่ยนแปลงการออกใบเสร็จรับเงิน จากรูปแบบกระดาษไปเป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกระบวนการจัดเก็บและการเข้าถึงข้อมูลใบเสร็จรับเงิน เท่ากับว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัวเลย
โครงการ Easy E-Receipt มีมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว (2567) มาปีนี้ก็มีอีก แต่รายละเอียดบางอย่างแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อไม่ให้สับสนสำหรับคนที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอันนี้ เรามาดูรายละเอียดของ Easy E-Receipt ทั้ง 2 ปีกันนะ
สิ่งที่เหมือนเดิม คือ
ผู้จะได้รับสิทธิประโยชน์ต้องมีคุณสมบัติหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
• ต้องเป็นผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
• ได้รับภาษีคืนจากการจับจ่ายสินค้าและบริการ มูลค่ารวมไม่เกิน 50,000 บาท จากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และเฉพาะที่ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
• ผู้ซื้อสินค้าและบริการ ต้องใช้ e-Tax invoice ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สิ่งที่แตกต่างกัน คือ
ระยะเวลา
ปีที่แล้ว คือ 1 ม.ค. – 15 ก.พ. 2567 ปีนี้ คือ 16 มค. – 28 ก.พ. 2568 ดังนั้น เรายังมีเวลาใช้สิทธิถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นะ
ดังนั้นสำหรับปี 2568 นี้ หากใครต้องการใช้สิทธิเต็มเพดาน 50,000 บาท ก็ต้องซื้อ สินค้า OTOP หรือซื้อสินค้าหรือบริการจากวิสาหกิจชุมชน ด้วยอย่างน้อยก็ต้องไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
สินค้าที่ใช้สิทธิไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเหมือนกัน จะต่างกันก็แค่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ค่าโรงแรม ค่าทัวร์ ฯลฯ แปลว่า ปีนี้ ใครเที่ยว คนนั้นจ่ายเอง 100% อย่าเผลอเที่ยวเพลิน เพราะคิดว่าสรรพากรจะช่วยจ่ายค่าเที่ยวให้เหมือนปีที่แล้ว