HoonSmart.com>>กระทรวงการคลังและอุตสาหกรรมจัดการลงทุนรวม กดปุ่มเสนอขาย 22″กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน(ThaiESG)” จาก 16 บลจ. ครอบคลุมสินทรัพย์ตราสารหนี้ หุ้น และกองผสมหลากสไตล์ ดึงคนรุ่นใหม่ รุ่นกลาง รุ่นใหญ่ ลงทุนเพื่ออนาคต พร้อมเปิด 5 เหตุผลควรลงทุน มั่นใจ 3 สัปดาห์ยอดออมไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในฐานะภาครัฐที่เป็นเสาหลักทางการคลังและเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยและยุทธศาสตร์ชาติต่อเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) รวมถึงการสร้างความเพียงพอของรายได้และเงินออมเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพภายหลังการเกษียณอายุในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ
กรมสรรพากรจึงพร้อมสนับสนุนมาตรการทางภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจในภาคประชาชนต่อการลงทุนเพื่อเป้าหมายความยั่งยืน โดยให้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนใน“กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน” (Thailand ESG Fund : Thai ESG) ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีและจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปีนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุน โดยกองทุน Thai ESG จะมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน ในประเทศ ที่มีนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือเพื่อความยั่งยืน
การระดมทุนผ่านกองทุน ThaiESG เชื่อว่าจะเป็นกลไกผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัวและให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน อันจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมๆ กับการที่ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ของสหประชาชาติ รวมทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)”
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุน ThaiESG ที่ภาครัฐได้ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนเพื่อเพิ่มหลากหลายให้กับกองทุนรวมด้านความยั่งยืน สนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวผ่านกองทุนรวม เพื่อสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ในการยกระดับศักยภาพตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable capital market) โดยสนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ภาคธุรกิจ ทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนผนวกปัจจัยด้าน ESG เข้าไปในการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย อีกทั้งยังตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ลงทุนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยในครั้งนี้ ก.ล.ต.ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Thai ESG ชุดแรกจำนวน 22 กองทุน และคาดว่าจะมีจำนวนกองทุนเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไป
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund :Thai ESG) ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐโดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน จะเป็นหนึ่งในกลไกหลักของตลาดทุนเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศโดยเฉพาะเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ.2065 ตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ใน Paris Agreement เป็นแรงผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะการดำเนินกิจการที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมมาภิบาล (ESG) รวมทั้งช่วยสร้างให้เกิดความเพียงพอของการออมเพื่อการเกษียณของประชาชน ซึ่งองค์กรในตลาดทุนไทยทั้งหมดต่างร่วมมือกันอย่างแข็งขันในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนและ ESG และได้รับการสนับสนุนด้วยดียิ่งจากภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร และ ก.ล.ต.
สำหรับ 5 เหตุผลที่ควรซื้อกองทุน ThaiESG คือ
1.เป็นการออมระยะยาว
2.ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี
3.เป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ราคากองทุนปรับเพิ่มขึ้น หรือมี Upside แน่นอน
4.ซื้อความยั่งยืนเพื่อประเทศ ให้รางวัลคนดี เพราะกองทุนนี้ลงทุนในบริษัทที่เน้นเรื่องการดูแลสังคม สิ่งแวดล้อม และบริหารกิจการอย่างโปร่งใส เป็นการช่วยกันเปลี่ยนแปลงสังคม
5.ผลตอบแทนดีกว่าการฝากธนาคารแน่นอน
“กองทุน ThaiESG จะเป็นการสนับสนุนบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อม ทำเพื่อสังคม สามารถสร้างความแตกต่างและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทยได้ในอนาคต และในระยะยาวอยากให้ไทยเป็นเบอร์ 1 ของ ESG”นายกอบศักดิ์ กล่าว
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า นักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ถือเป็น stakeholder ที่จำเป็นและสำคัญมากในกระบวนการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน เพราะเป็นตัวกลางช่วย Unlock value เป็นสะพานเชื่อมต่อ supply ซึ่งคือบริษัทจดทะเบียนและ demand คือผู้ลงทุนไทย สำหรับความร่วมมือในการออกกองทุน ThaiESG ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ESG และเพื่อเป็นช่องทางการออมที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวของประชาชน
สำหรับประชาชน สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือกองทุน ThaiESG จะมีการลงทุนในบริษัทที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน มีการเปิดเผยข้อมูลและตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน เช่น green bond หรือ Sustainability Bond ซึ่งครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนไทย 210 บริษัท จากบริษัทจดทะเบียน 840 บริษัทและกองทุน ThaiESG มีการจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI) กับ ก.ล.ต. ที่เป็นหลักเกณฑ์การลงทุนอย่างยั่งยืนตามหลักสากล และมีการกำกับดูแลเข้มข้นกว่ากองทุนรวมทั่วไป โดยการลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายเน้นความยั่งยืนมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นมีการผันผวนทั่วโลกรวมถึงไทยด้วย แต่มีเงินเข้ามาลงทุนในหุ้น ESG อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หุ้นทั่วๆ ไปมีการขายออก
กองทุนที่จัดตั้งขึ้นจะกำหนดนโยบาย กลยุทธ์การลงทุน แนวทางการคัดเลือกหลักทรัพย์ การลงทุน การติดตามการลงทุน การทำหน้าที่ active engagement ตลอดไปจนถึงการเปิดเผยผลการบริหารจัดการกองทุนว่าสอดคล้องหรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่กองทุนนั้นๆกำหนดไว้หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือของ บลจ. สมาชิกเพื่อร่วมกันตรวจสอบติดตามบริษัทจดทะเบียนที่อาจไม่ปฏิบัติตาม ESG โดยกำหนด AIMC ESG Policy and Collective Action และการจัดทำ Negative List เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้จัดการกองทุนใช้กลั่นกรองบริษัทจดทะเบียนเพื่อลงทุนอีกด้วย กระบวนการทั้งหมดนี้แสดงถึง commitment ของ บลจ./กองทุน ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของตนจะมีส่วนช่วยผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทย และบริษัทผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนให้มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศอย่างจริงจัง
“ในครั้งนี้มีบลจ.รวมพลังกันจัดตั้งกองทุน Thai ESG จำนวน 22 กองทุน จาก 16 บลจ. ที่มีสัดส่วนทางการตลาดรวมกว่า 98% ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.ThailandESG.com ครอบคลุมความต้องการของประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะมาออมมี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่เลยที่ยังไม่เคยลงทุน และกลุ่มคนที่เคยออมในกองทุน SSF และกลุ่มคนสูงอายุหน่อยที่เคยลงทุนในกองทุน LTF จากการประเมินสถิติของการขายกองทุนในช่วงปลายปีเราก็คาดว่าจะมีผู้ซื้อกองทุน ThaiESG ในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้าย 10,000 ล้านบาท”นางชวินดา กล่าว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้าน ESG อย่างต่อเนื่องในทุกมิติ ตั้งแต่พัฒนาและยกระดับบริษัทจดทะเบียนไทย บูรณาการเรื่อง ESG ให้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์และกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยให้คำนึงถึงการเติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย สร้างต้นแบบธุรกิจที่มี ESG เพื่อเป็นแบบอย่าง มีการจัดทำ“รายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings” เพื่อรวบรวมบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่โดดเด่น ซึ่งในปี 2566 นี้ มีบริษัทจดทะเบียนได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนถึง 193 บริษัท และหุ้นไทยที่ติดระดับท็อปๆ ด้าน ESG ของโลกมีถึง 10 บริษัท
นอกจากนี้ ยังพัฒนา “SET ESG Data Platform” เพื่อจัดการข้อมูลด้าน ESG อย่างเป็นระบบ และจัดทำดัชนี SET ESG ให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็น benchmark และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งการจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund จะในครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาธุรกิจตามหลัก ESG มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนไทย ที่จะได้ลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคต อีกทั้งยังช่วยในการขยายฐานและมีผู้ให้ความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนกองทุน Thailand ESG Fund อย่างเต็มที่ ทั้งการให้ความรู้ และการประชาสัมพันธ์แก่ผู้ลงทุน โดยได้ร่วมจัด Mutual Fund Fair ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ข้อมูล แนะนำกองทุนรวม ThaiESG แก่ผู้สนใจ อีกด้วย
อ่านข่าวอื่นๆ
บลจ.ยูโอบีส่งกองทุน UTSEQ-THAIESG ลดหย่อนภาษี ขาย IPO 8-15 ธ.ค.นี้
MFC เปิดตัว 2 กองทุน ThaiESG ตัวช่วยลดหย่อนภาษี ขาย IPO 8-19 ธ.ค.
KTAM เปิดตัวกองทุน Thai ESG ขาย IPO 3 กองรวด ดีเดย์ 8-18 ธ.ค.นี้
บลจ.กสิกรไทยเสิร์ฟ K-TNZ-ThaiESG กองทุนแรกในไทยลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“บลจ.อีสท์สปริง” เปิดตัวกองทุน ES-SETESG สร้างโอกาสเติบโตยั่งยืน ลดหย่อนภาษี
“บลจ.กรุงศรี”ส่งกองทุน KFTHAIESG เติบโตไปกับหุ้น ESG ขาย 8-18 ธ.ค.นี้