HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 62 จุด , S&P500 +0.80% , Nasdaq +1.37% หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลตลาดแรงงานเพื่อหาสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย “ราคาน้ำมันดิบ” WTI ลดลง 4 เซนต์ “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ กังวลภาวะเศรษฐกิจหลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจเยอรม กังวลภาคอุตสาหกรรมยังฉุดเศรษฐกิจของประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 7 ธันวาคม 2566 ที่ 36,117.38 จุด เพิ่มขึ้น 62.95 จุด หรือ 0.17% ด้วยการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลตลาดแรงงานเพื่อหาสัญญานทิศทางอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,585.59 จุด เพิ่มขึ้น 36.25 จุด, +0.80%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,339.99 จุด เพิ่มขึ้น 193.28 จุด, +1.37%
ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นโดดเด่นจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากการคาดการณ์ว่า กระแสเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)จะมาแรง หลังอัลฟาเบท บริษัทแม่กูเกิลพุ่งกว่า 5% หลังบริษัทเปิดตัว เจมีไน (Gemini) โมเดล AI รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุน
หุ้น Nvidia และหุ้น AMD ปรับขึ้นกว่า 2% และ 9% ตามลำดับ
ในสัปดาห์นี้ตลาดงานอยู่ในความสนใจของนักลงทุน ท่ามกลางการเปิดเผยข้อมูลที่หลากหลาย
การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่รายงานเมื่อวานนี้ ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ และลดลงต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราการเลิกจ้างไม่ได้เพิ่มขึ้น โดยกระทรวงแรงงานรายงานจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 1,000 ราย มาที่ 220,000 ราย แต่ต่ำกว่า 222,000 ที่นักวิเคราะห์คาด
การขอรับสวัสดิการว่างงานอต่อเนื่องมีจำนวน 1.861 ล้านรายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 พฤศจิกายน ลดลง 64,000 รายจากสัปดาห์ก่อน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 4.148% หลังการรายงานข้อมูลที่สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน แม้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะต่อสู้กับเงินเฟ้อ ว่าจะทำให้เฟดมีปัจจัยสนับสนุนในการคงนโยบายการเงินที่เข้มงวดและคงอัตราดอกเบี้ยให้ในการประชุมสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตามนักลงทุนรอการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งและคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%
รายงานการจ้างงานเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์จะเป็นการทดสอบการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยอย่างแท้จริง ก่อนการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดในสัปดาห์หน้า
หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญปรับตัวขึ้น หลังจากสมาคมเรือสำราญนานาชาติ (CLIA) คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการเรือสำราญจำนวนมากถึง 35.7 ล้านรายในปี 2024 สูงขึ้นจาก 31.5 ล้านราย ที่คาดไว้ในปี 2023 โดยหุ้น Royal Caribbeanเพิ่มขึ้น 1.1% หุ้น Carnival
เพิ่มขึ้น 2.5% หุ้นNorwegian Cruise Line เพิ่มขึ้น 3.2%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ ด้วยความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจหลังจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของเยอรมนีทำให้กังวลว่า ภาคอุตสาหกรรมจะยังฉุดเศรษฐกิจของประเทศ
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีกำลังประสบปัญหา เนื่องจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงเกินคาดคิดในเดือนตุลาคม หนึ่งวันหลังจากคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมลดลงมากกว่าคาดเช่นกัน
นอกจากนี้ อิตาลีเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.2% ในเดือนตุลาคมเมื่อเทียบรายเดือน
ด้านยูโรสำนักงานสถิติยุโรป (Eurostat) ยืนยันการคาดการณ์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน ลดลง 0.1% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2
ผลสำรวจของรอยเตอร์บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่เศรษฐกิจยูโรโซนเข้าสู่ภาวะถดถอยเล็กน้อยช่วงสั้นๆ
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 468.78 จุด ลดลง 1.28 จุด, -0.27%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.72 จุด ลดลง 1.66 จุด, -0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 7,428.52 จุด ลดลง 7.47 จุด, -0.10%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,628.99 จุด ลดลง 27.45 จุด, -0.16%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 69.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 25 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 74.05 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล