HoonSmart.com>>ACE รับข่าวดีเปิดศักราช กดปุ่ม COD โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 5 โครงการ กำลังผลิต 35.4 MW สัญญา 25 ปี มั่นใจปี’68 สดใส เตรียม COD เพิ่มอีกกว่า 10 โครงการ
นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ หรือ ACE ผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของไทย เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) จำนวน 5 โครงการของบริษัทฯ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แบบ Feed-in Tariff (FiT) จำนวน 35.40 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (“กฟภ.”) ได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงระหว่างวันที่ 23 – 25 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยมีอัตราขายไฟฟ้าแบบ FiT ที่ 2.1679 บาทต่อหน่วย ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นับจากวันที่เปิด COD
สำหรับ 5 โครงการข้างต้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ ACE ชนะการประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตเสนอ (PPA) รวม 112.73 เมกะวัตต์
โรงไฟฟ้าในกลุ่มนี้ ACE คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและทยอยเปิด COD เพิ่มเติมในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 อีกประมาณ 10 โครงการ กำลังการผลิตเสนอขายตามสัญญา PPA 57.33 เมกะวัตต์ และเปิด COD เพิ่มอีก 3 โครงการภายในปี 2570 ตามลำดับ
เมื่อ COD และรับรู้รายได้เต็มปีได้ครบทั้ง 18 โครงการ คาดจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ ACE อีกประมาณ 650 – 680 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ เมื่อช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ที่ผ่านมา ACE ก็ได้มีการเปิด COD โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับลูกค้าภาคเอกชนเรียบร้อยแล้วอีก 4 โครงการ
ปัจจุบัน ACE มีโครงการโรงไฟฟ้ารวม 89 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 726.15 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 34 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 349.21 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 55 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 376.94 เมกะวัตต์
พร้อม ยังคงตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ให้ได้ภายในปี พ.ศ.2593 ซึ่งสอดรับตามกลยุทธ์ธุรกิจในการตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็น “ต้นแบบผู้นำด้านธุรกิจพลังงานสะอาดของโลก” ที่ยึดมั่นมาตลอด อันจะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกจากภายในองค์กรไปสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน