“คิงส์ฟอร์ด” วางแนวรับ 1,370–1,375 จุด แนะ 4 หุ้นเก็งกำไรสัญญาณเทคนิคหนุน

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี 1,370 – 1,375 จุด ส่วนแนวต้าน 1,385 – 1,390 จุด คาดได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง แนะ 8 หุ้นเด่นปัจจัยหนุน พร้อมเสิร์ฟ 4 หุ้นเก็งกำไร VGI,BTS,PLANB,MASTER รับสัญญาณบวกทางเทคนิค

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,370 – 1,375 จุด แนวต้าน 1,385 – 1,390 จุด คาดดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน ระหว่างรอประเมินผลกระทบจาก มาตรการทรัมป์ 2.0 แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอุปโภคและส่งออก เช่น CBG,COCOO, MALEE,ITC,AAI คาดยังได้แรงหนุนจากกำลังซื้อในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มพลังงานและปิโตร เช่น PTTEP,PTTGC,IVL คาดได้ปัจจัยหุนจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน หุ้นเก็งกำไร VGI,BTS,PLANB,MASTER มีสัญญาณบวกทางเทคนิค

ขณะที่ SET วานนี้ปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA -8.8% ส่งผลลบต่อดัชนี -13.7 จุด จากความกังวลจะถูกเรียกเก็บภาษีต่ำเกณฑ์ Global Minimum Tax ที่ 15% จากปัจจุบันจ่ายภาษีที่ระดับ 5.5% ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรปีนี้ของบริษัทลดลงราว 10% ส่วนหุ้นที่ Outperform ในปีที่ผ่านมาเช่น GULF,INTUCH,ADVANC ก็ถูกแรงขายทำกำไร กอปรกับความกังวลกองทุน LTF ที่ครบกำหนดสามารถขายได้ในปีนี้มูลค่าราว 6 หมื่นล้านบาท แม้ว่าผลกระทบคาดจะไม่มาก เนื่องจากต้นทุนการถือครองกองทุนเฉลี่ยอยู่ที่ระดับดัชนี SET ที่ 1,600 จุด ซึ่งต้นทุนยังสูงกว่าระดับดัชนีในปัจจุบัน โดย Fund Flow ต่างชาติยังชะลอการลงทุนระหว่างรอประเมินผลกระทบจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ที่จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.36%, S&P500 -0.22%, Nasdaq -0.16% ปรับลดลง หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 9,000 อยู่ที่ 211,000 ต่ำกว่าคาดที่ 222,000 ราย ต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 67 บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ส่งผลให้การประชุมเฟดวันที่ 29 ม.ค. คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.5% ซึ่งเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่ม Growth

ทางด้านข้อมูล S&P Global PMI ภาคการผลิตสหรัฐ ธ.ค. อยู่ที่ 49.4 และ พ.ย. 49.7 อยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

ค่ำวันนี้ติดตาม ISM ภาคการผลิตสหรัฐ ธ.ค. คาด 48.3 และ พ.ย. 48.4 และสัปดาห์หน้าติดตามข้อมูลตลาดแรงงาน เช่น ตัวเลขเปิดรับสมัครงาน, การจ้างงานภาคเอกชน และการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ธ.ค.

หุ้นแนะนำ ได้แก่ PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 9.55 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q67 ที่ 282 ล้านบาท +7%QoQ, +8%YoY ตามรายได้สื่อโฆษณานอกบ้านและรายได้การบริหารสิทธิกีฬา Olympic อย่างไรก็ตาม GPM ปรับตัวลดลงเหลือ 27% เพราะ margin ของงาน Olympic ต่ำกว่าธุรกิจปกติ ข้ามมาที่ 4Q67 คาดกำไรฟื้นตัวเด่น QoQ, YoY เนื่องจากเป็น high season ของการใช้สื่อนอกบ้าน U-rate กลับมาที่ 80% และ GPM จะฟื้นตัวไม่มี Olympic มาฉุด โดยบริษัทคงเป้าหมาย core revenue +6-8%, GPM 29-31%, NPAT margin >11%

ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อิงจาก consensus อยู่ที่ 1.05 พันล้านบาท +15%YoY และ 1.2 พันล้านบาท +14%YoY

หุ้น MASTER (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 58.92 บาท) กำไรสุทธิ 9M67 อยู่ที่ 303 ล้านบาท ,+20%YoY หนุนด้วยรายได้ศัลยกรรมและรายได้ต่างชาติ รวมถึง Equity Income ที่สูงขึ้น ขณะที่ 4Q67 คาดการดำเนินงานยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการจัดอีเว้นท์ในต่างประเทศ

ส่วนภาพรวมปี2568 นี้ ทางผู้บริหาร MASTER วาง เป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดย เป็นการโตแบบ Organic ในสัดส่วน 80% และอีก 20%เติบโตแบบ Inorganic ด้วยกลยุทธ์แบบ Merger and Partnership (M&P) ทั้งนี้ ตลาดคาด กำไรสุทธิปี67 และ 68ของ MASTER* ที่ 501 ล้านบาท ( +22%YoY) และ 624ล้านบาท (+25%YoY)