ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 294 จุด S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดของปี

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่งต่อ 294 จุด +0.82% , ดัชนี S&P500 +0.59% ปิดที่ระดับสูงสุดของปี , Nasdaq +0.55% แม้นักลงทุนยอมรับคำเตือนประธานเฟดระบุเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยเสร็จสิ้นแล้ว หรือเก็งว่าเฟดจะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย ด้าน “บอนด์ยีลด์” ปรับตัวลดลง น้ำมันดิบ WTI ลงอีก 1.89 ดอลลาร์ กว่า 2.49% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 1ธันวาคม 2566 ที่ 36,245.50 จุด เพิ่มขึ้น 294.61 จุด หรือ 0.82% แม้นักลงทุนยอมรับคำเตือนของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่าเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้นเสร็จสิ้นแล้ว หรือเก็งว่าเฟดจะเริ่มปรับลอัตราดอกเบี้ย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,594.63 จุด เพิ่มขึ้น 26.83 จุด, +0.59%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,305.03 จุด เพิ่มขึ้น 78.81 จุด, +0.55%

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งในวันศุกร์ ทำให้ในปี 2023 ปรับขึ้นแล้วเกือบ 9.4% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 2.4%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.8% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.4% และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์

เมื่อวันศุกร์ นายพาวเวลล์ ออกมาสกัดความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปอย่างมั่นใจว่านโยบายการเงินนั้นเข้มงวดมากพอ

แม้จะมีตัวชี้วัดเชิงบวกมากมายเกี่ยวกับเงินเฟ้อล่าสุด แต่นายพาวเวลล์กล่าวว่าคณะกรรมการ FOMC ตั้งใจที่จะคงนโยบายที่เข้มงวด จนกว่าผู้กำหนดนโยบายจะเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2% อย่างชัดเจน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลง แม้มีคำเตือนของนายพาวเวลล์ ในขณะที่เทรดเดอร์ตีความว่าเป็นสัญญาณว่าอย่างน้อยเฟดเสร็จสิ้นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงที่ 4.213%

ข้อมูลภาคการผลิตในวันศุกร์เป็นอีกสัญญาณของการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตของเดือนพฤศจิกายนทรงตัวที่ระดับ 46.7 และต่ำกว่า 47.6 ที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นการหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13

อันนา ราธบัน ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ CBIZ Investment Advisory Services กล่าวว่า เป็นตัวเลขที่น่าผิดหวัง ต่ำกว่าความคาดหมาย แต่ที่สำคัญคือชี้ไปที่การชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ

ในสัปดาห์หน้า นักลงทุนจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทค้าปลีก คือDollar General และ Luluemon เพื่อประเมินการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการรายงานข้อมูลตำแหน่งงานว่างและการหมุนเวียนของแรงงานประจำเดือนตุลาคม (JOLT) และรายงานการจ้างงานเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญถึงที่ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดเดือนธันวาคมด้วยการปรับตัวขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มเหมืองแร่ขณะที่นักลงทุนประเมินการให้ความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ถึงเวลาที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

หุ้นเหมืองแร่ปรับตัวขึ้น 4.2%หลัง Caixin รายงานการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาดของภาคการผลิตใน และยังได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของ หุ้น Anglo American PLC และ หุ้น Antofagasta PLC หลังจากการปรับเพิ่มคำแนะนำการลงทุนจาก UBS

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวก จากข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจในยุโรป โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตแข็งแกร่ง ทั้งในเขตยูโรและอังกฤษ

นักลงทุนจับตาฝรั่งเศส หลัง S&P Global ทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือ ในวันศุกร์

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.20 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด, -0.99%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,529.35 จุด เพิ่มขึ้น 75.60 จุด, +1.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,346.15 จุด เพิ่มขึ้น 35.38 จุด, +0.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,397.52 จุด เพิ่มขึ้น 182.09 จุด, +1.12%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1.89 ดอลลาร์ หรือ 2.49% ปิดที่ 74.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 78.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล