HoonSmart.com>>ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดรายได้ดีลเลอร์รถยนต์ปี’68 หดตัว 4.9% ผลจากยอดขาย+ค่าซ่อมลดลง จับตา 2 ปัจจัยเสี่ยงซ้ำเติม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มรายได้ธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ปี 2568 หดตัว 4.9% หดตัวต่อจากปี 2567 ที่หดตัวสูงกว่า 32.4% จากปัจจัยสำคัญ 2 ด้าน คือ
(1) การหดตัวของรายได้จากการขาย 5.4% จากปัญหายอดขายรถยนต์ในประเทศที่คาดลดลงเหลือ 530,000 คันในปี 2568 หดตัวต่อเนื่องจากปี 2567 ที่หดตัว 27.8% หลังกำลังซื้อหดหายและหนี้เสียรถยนต์ยังสะสมในระดับสูง ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่คาดว่าจะหดตัวสูงถึง 38.4% นำโดยปิกอัพ ที่มีส่วนแบ่งถึง 85% ของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์รวม ทำให้รถ
ปิกอัพ มีโอกาสเสียรายได้จากการขายมากกว่ากลุ่มอื่น
ขณะที่รถยนต์นั่งอาจพบการหดตัวของกลุ่มที่ใช้น้ำมันล้วน (ICE) ตรงข้ามกับกลุ่มรถยนต์นั่ง xEV ซึ่งประกอบไปด้วย รถยนต์นั่ง HEV, PHEV และ BEV1 ที่มีทิศทางขยายตัว โดยในกลุ่มรถยนต์นั่ง BEV คาดว่ารถยนต์นั่งหรู BEV น่าจะขยายตัวสูงกว่าตลาด BEV รวม เพราะผู้ซื้อมีรายได้มั่นคง
(2) การหดตัวของรายได้จากการซ่อมบำรุงที่ 1.2% ตามจำนวนรถที่เข้าใช้บริการที่ลดลง หลังจำนวนรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าหลักทยอยลดลงจนเหลือ 8.89 ล้านคัน หลังยอดขายรถยนต์ในช่วงหลังเผชิญกับหลายวิกฤติ
ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ผลจากการเร่งซื้อล่วงหน้าของรถยนต์คันแรก ปัญหาโควิด และล่าสุดปัญหาหนี้เสียสูง
มาในปี 2568 คาดว่าสถานการณ์ปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบตลาดรถยนต์ในประเทศน่าจะ
ยังไม่คลี่คลาย เนื่องด้วยเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการจัดการ ส่งผลให้ธุรกิจดีลเลอร์
รถยนต์ยังต้องเร่งปรับตัวต่อในหลายรูปแบบเพื่อหาช่องทางเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจแม้จะไม่ง่าย ทั้งการหารายได้เพิ่มจากการซ่อมบำรุง และการขยายหรือเปลี่ยนไปทำดีลเลอร์ให้ค่ายรถยนต์อื่นที่ยอดขายยังไปได้
จับตา 2 ความเสี่ยง
สำหรับ ความเสี่ยงของธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ไทย ปี 2568 ประกอบด้วย
1.การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีรถยนต์ พลังงานทางเลือกกลุ่ม xEV ซึ่งจะกระทบกับยอดขายรถยนต์ ICE โดยตรง ทำให้ค่ายรถที่เน้นขายรถยนต์ ICE เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์นั่งที่จะเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีเร็วกว่าอาจได้รับผลกระทบจากรายได้ที่ลดลง ซึ่งจะตรงข้ามกับกลุ่มที่เน้นขายรถยนต์ xEV
2.การแข่งขันที่สูงขึ้นจากค่ายรถใหม่ที่ลงทุนในประเทศกับรถยนต์นำเข้าจากประเทศคู่ค้าที่มี FTA ทำให้มีโอกาสเกิดการแข่งขันด้านราคาและโปรโมชั่นต่างๆรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ดีลเลอร์อาจเผชิญกับปัญหากำไรจากการขายลดลง โดยเฉพาะในกลุ่ม Market Share ต่ำที่แข่งขันได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น