HoonSmart.com>>”บล.คิงส์ฟอร์ด” ลุ้นตลาดหุ้นวันสุดท้ายของปีได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ,รีบาลานซ์ดัชนี SET50 นำ BANPU, CCET, COM7, SAWAD ส่วน SET100 CCET, COCOCO, JTS, PR9 เข้าคำนวณดัชนีในรอบครึ่งปีแรกปี 68 พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่น CBG, TEGH
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด คาดแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ดัชนีได้ปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินของกองทุนประหยัดภาษี และการทำ Window Dressing และการรีบาลานท์ SET50 นำ BANPU, CCET, COM7, SAWAD และ SET100 คือ CCET, COCOCO, JTS, PR9 เข้าคำนวณดัชนีในรอบครึ่งปีแรกปี 68 ประเมินแนวต้านดัชนี SET ที่ 1,405 – 1,410 จุด ส่วนแนวรับ 1,390 จุด
“แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC,CRC,COM7,SYNEX ได้ประโยชน์ มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ กลุ่มไอซีที ADVANC,INTUCH,TRUE คาดรายได้การใช้ข้อมูลสูงขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเก็งกำไร SCC,SCGP,PTTGC,BCP,BANPU,LH,AP,SIRI มีโอกาสทำ Window Dressing”
สำหรับหุ้นเด่นแนะนำ ได้แก่ CBG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 92.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิงวด 3Q67 อยู่ที่ 734 ล้านบาท เติบโต +7%QoQ, +40%YoY ได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศของเครื่องดื่ม energy drink และรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายสุราข้าวหอม-เบียร์คาราบาว ประกอบกับต้นทุนเศษแก้วและพลังงานที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น
ส่วนแนวโน้ม 4Q67 คาดกำไรเติบโตได้ต่อ QoQ, YoY โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต +20% ในปี 68 คาดส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มเป็น 26% ในสิ้นปี และ 29% ในปีหน้า ผ่านกลยุทธ์เดิมที่ราคาขาย 10 บาท/ขวด ประเมินแนวโน้มต้นทุนการผลิตลดลงจาก raw mat และการประหยัดต่อขนาด ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 อยู่ที่ 2.8 พันล้านบาท +46%YoY และ 3.2 พันล้านบาท +13%YoY โดยยังมี upside จากการกลับไปทำตลาดในจีน
หุ้น TEGH (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 4.63 บาท) แนวโน้มการดำเนินงานปกติ 4Q67 ยังดูดีต่อเนื่อง YoY จากราคายางและน้ำมันปาล์มที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คาดว่าสัดส่วนปริมาณขายยาง EUDR (ซึ่งราคาขายจะสูงกว่ายางปกติ/ 3Q67 สัดส่วนยางแท่ง EUDR อยู่ที่ราว 32%) จะสูงขึ้นด้วยแม้ EU เลื่อนการบังคับใช้ออกไปปี69 แต่ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่
ด้าน TEGH เองวางแผนขยาย Capacity ปี68 ในธุรกิจ Crude Palm Oil +51%, ธุรกิจ Organic Waste Management +18%, ธุรกิจ Biogas +48%, และ ธุรกิจ Electricity +44% ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี67 และ68 กำไรสุทธิของ TEGH จะอยู่ที่ระดับ 526 ล้านบาท (+145%YoY) และ 611 ล้านบาท (+16%YoY)
ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์ DJIA -0.77%, S&P500 -1.11%, Nasdaq -1.49% โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย -1.66%, เทคโนโลยี -1.41%, บริการสื่อสาร -1% ถูกกดดันหลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.629% สูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยในปีหน้าจากเดิม 4 ครั้ง เหลือ 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% กอปรกับ รมว.คลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลน ชี้ระดับหนี้จะถึงเพดานหนี้ใหม่ในช่วงวันที่ 14 – 23 ม.ค. 68 ซึ่งต้องใช้ มาตรการพิเศษ บ่งชีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้
สัปดาห์นี้ติดตาม ยอดสัญญาขายบ้านรอปิดการขาย พ.ย., S&P/C-S ดัชนีราคาบ้านสหรัฐ 20 เมือง ต.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, PMI/ISM ภาคการผลิตสหรัฐ ธ.ค.
———————————————————————————————————————————————————–
