นายทวิโรจน์ ทรงกำพล ประธานเจ้าหน้าที่สายกลยุทธ์องค์กร บริษัท การบินไทยฯ เปิดเผยว่าการบินไทย ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ในการนำเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน : Sustainable Aviation Fuel (SAF) มาใช้กับเครื่องบินของการบินไทย เพื่อแสดงถึงการมีส่วนร่วม ส่งเสริม และสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมการบินลงได้ รวมทั้ง เพื่อกระตุ้นให้เกิดความยั่งยืนในด้านการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ เพื่อนำมาใช้ทดแทนน้ำมันอากาศยานที่ผลิตจากซากฟอสซิลในปัจจุบัน โดยเชื้อเพลิง SAF สามารถผลิตขึ้นได้จากวัตถุดิบหลายชนิด เช่น used cooking oil , Ethanol จากชานอ้อย และขยะ เป็นต้น โดยจุดเด่นของเชื้อเพลิง SAF คือ การมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตน้อยกว่าเชื้อเพลิงอากาศยานโดยทั่วไป และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 8000 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงโดยปกติ และด้วยเหตุนี้ หลายธุรกิจและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ จึงหันมาให้ความสนใจในเชื้อเพลิง SAF และพยายามผลักดันให้มีการใช้เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสามารถนำมาใช้งานโดยผ่านการผสมในน้ำมันเครื่องบินที่ทำจากฟอสซิสในปัจจุบัน (Jet A1) ได้ทันที โดยไม่ต้องมีการปรับปรุงเครื่องยนต์ให้รองรับการใช้งาน อีกทั้ง เชื้อเพลิง SAF มีการกำหนดมาตรฐานการผลิตตามแต่ละประเภทของวัตถุดิบเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง OR และการบินไทยในครั้งนี้ เป็นการนำน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ไปใช้ในอุตสาหกรรมการบินสำหรับเที่ยวบินนำร่องของการบินไทย ซึ่งจะมีพิธีเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตในเดือนธันวาคมนี้ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนของ OR หรือ OR SDG โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน “G” หรือ “GREEN” ที่มุ่งสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ (Healthy Environment) เพื่อตอบโจทย์การตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon-Neutrality) ภายในปี 2030 ประกอบกับการที่ OR ในฐานะหนึ่งในสมาชิกที่ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการศึกษา พัฒนาและลงทุนผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ระหว่างกลุ่ม ปตท. ร่วมกับ บริษัท ปตท. (PTT) บริษัท ไทยออยล์ (TOP) , บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) และ บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) ที่ผ่านมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่มีความตั้งใจเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานเพื่อดำเนินธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับความยั่งยืนของโลก มุ่งมั่นลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2050