ทริสชี้ CPAXT-CPALLลงทุน ‘Happita’ ระดับสำรองลดลง กดดันการเงิน

HoonSmart.com>>หุ้น”ซีพี แอ็กซ์ตร้า” (CPAXT)-“ซีพี ออลล์” (CPALL) ร่วงต่อ 3-4% มาร์เก็ตแคปทรุดลงวันนี้รวม 3.1 หมื่นล้านบาท  ทริสฯมองการซื้อกิจการโครงการ “The Happitat” มูลค่า 8 พันล้านบาทใช้เงินกู้เป็นหลัก และอสังหาฯยังใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมอีก 7 พันล้านบาท แต่ยังไม่ได้สร้างผลตอบแทน 2-3 ปี อาจกดดันสถานะทางการเงิน ลดความสามารถในการรักษาอันดับเครดิต อาจส่งผลให้ระดับสำรองสำหรับเรทติ้งปัจจุบันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 

วันที่ 19 ธ.ค.2567 นักลงทุนยังคงขายหุ้นบริษัทซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) ออกมาต่อเนื่อง กดดันราคาหุ้นปิดที่ 26.25 บาท ร่วงลง -1.25  บาทหรือ -4.55% ทำให้มาร์เก็ตแคปลดลง 13,035 ล้านบาท และราคาหุ้นบริษัทซีพี ออลล์ (CPALL) ปิดที่ 54.50 บาท ทรุดลง 2 บาทหรือ-3.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 3,148.35 ล้านบาทสูงที่สุดของวันนี้   กดดันมาร์เก็ตแคปลดลง17,966 ล้านบาท รวมทั้ง 2 บริษัทมูลค่าหายไปมากถึง 31,001 ล้านบาท

บริษัททริสเรทติ้งมองว่าการซื้อกิจการโครงการ “The Happitat” โดย บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า นั้นอาจส่งผลกดดันต่อสถานะทางการเงินของบริษัทและลดความสามารถในการรักษาอันดับเครดิตในปัจจุบันเอาไว้ได้ แม้ว่าอันดับเครดิตของทั้ง CPAXT และ บริษัท ซีพี ออลล์ จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่การซื้อกิจการดังกล่าวอาจส่งผลให้ระดับสำรองสำหรับอันดับเครดิตปัจจุบัน (Credit Rating Buffers) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ธุรกรรมดังกล่าวซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาทนั้นคาดว่าจะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก นอกจากนี้ ทริส คาดว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ CPAXT ลงทุนครั้งนี้ยังอาจจะต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 7,000 ล้านบาทโดยที่โครงการจะยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าแต่อย่างใด

ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของ CPALL ณ เดือนก.ย. 2567 อยู่ที่ระดับ 4.5 เท่า เมื่อพิจารณาจากภาระหนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและกำไรที่อาจจะลดลงแล้ว อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ของ CPALL จึงอาจเพิ่มสูงขึ้นจนใกล้เคียงกับเกณฑ์การปรับลดอันดับเครดิตของทริสฯที่ระดับ 5 เท่า นอกจากนี้ การซื้อกิจการดังกล่าวยังส่งผลต่อประเด็นในเรื่องความเหมาะสมในการลงทุนอีกด้วยเนื่องจากยังมีความไม่ชัดเจนว่าการซื้อกิจการนั้นมีความสอดคล้องกับธุรกิจค้าปลีกซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ CPAXT อย่างไร

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 CPAXT ได้ประกาศการจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ บริษัท แอ็กซ์ตร้า โกรท พลัส (AGP) ซึ่งบริษัทถือหุ้น 95% และอีก 5% ถือโดย บริษัท เอ็มคิวดีซี ทาวน์ คอร์ปอเรชั่น  โดย AGP จะถือหุ้น 100% ในบริษัท แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์  (HATF) ซึ่งดำเนินโครงการ “The Happitat” ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และอาคารศูนย์กลางสาธารณูปโภค

ปัจจุบันทริสจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ CPALL ที่ระดับ “AA-” และจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Hybrid Debentures) ของบริษัทที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่”

ส่วน CPAXT นั้น ทริสประเมินให้มีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลักของ CPALL รวมทั้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ CPAXT ที่ระดับ “AA-” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต  “คงที่”